สิมิลันเป็นหมู่เกาะที่อยู่ในใจผมมาตลอด ถึงแม้ผมจะเคยเดินทางไปที่นี่เมื่อนานมาแล้ว แต่น้ำทะเลที่ใสราวกระจก มันทำให้ผมไม่เคยลืมเลือนที่แห่งนี้
เกาะสิมิลัน ประกอบไปด้วยเกาะหลายๆ เกาะรวมกัน ดังนั้น ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ
“หมู่เกาะสิมิลัน” ซึ่งเกาะชื่อดังอย่างเกาะตาชัย ก็เป็นหนึ่งในหมู่เกาะแห่งนี้ด้วย
สิมิลันเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สมบูรณ์ เราสามารถพบเจอสัตว์ทะเลหายากอย่าง ปูไก่ หรือเต่าทะเล ได้ที่นี่ แน่อนที่สุดครับเมื่อสิมิลันได้ชื่อว่าสรวงสวรรค์แห่งทะเล มันก็ไม่แปลก
ที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศแห่กันไปเยือนที่นี่ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ผมใช้ภูเก็ตเป็นที่ปักหลักสำหรับทัวร์สิมิลันนี้ เฉกเช่นเดียวกับ ทัวร์เกาะตาชัย เกาะพีพี และอ่าวพังงา ที่ผมเพิ่งไปเมื่อไม่นานมานี้
แน่นอนที่สุดครับไปทัวร์สิมิลัน เราต้องออกแต่เช้า ดังนั้นเพื่อป้องกันความผิดพลาดของการเดินทาง ผมเลยพักที่ภูเก็ตคืนนึงก่อน
Sleep Room Guesthouseคือที่ซุกหัวนอนผมคืนนี้ เป็นที่พักที่เรียบง่าย สะดวกและปลอดภัยที่นี่จึงเป็นทีพักประจำของผมที่ภูเก็ต
Sleep Room ไม่ใช่ที่พักที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวนะครับ แต่ผมต้องการใช้บริการที่พักเงียบสงบ ไม่วุ่นวายในคุณภาพเที่ยบเท่ารีสอร์ทหรือโรงแรม และที่นี่ตอบโจทก์ผมได้มากที่สุด
ผมใช้ที่นี่เพื่อพักคืนเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องไปพักรีสอร์ทราคาแพงให้สิ้นเปลืองว่าไหม เพราะเป้าหมายผมคือเกาะสิมิลัน มิใช่นอนชิวๆ ที่รีสอร์ทหรือโรงแรม
ตกเช้ามามีรถมารับถึงหน้าที่พักเพื่อเดินทางไปท่าเรือทับละมุครับ
สำหรับท่านที่ต้องการทัวร์สิมิลัน แต่ไม่อยากค้างคืน ก็สามารถนั่งเครื่องรอบเช้าไปลงที่สนามบินได้เลยครับ เอาเป็นรอบที่เช้าที่สุดนะ จะมีรถไปรับที่สนามบินถึงที่ หลังจากนั้นเราจะใช้เวลา ประมาณ 45 นาที ไปยังท่าเรืองทับละมุ และใช้ Speed boat จากท่าเรือไปยังหมู่เกาะสิมิลันอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ในที่สุดผมก็มาถึง เกาะสี่ หนึ่งในหมู่เกาะสิมิลันครับ
เราถึงเกาะสี่เกือบๆ เที่ยง และก่อนจะขึ้นฝั่ง ทางทัวร์จะให้เราแวะดำน้ำหน้าเกาะสี่ก่อนหนึ่งจุดครับ
แค่จุดดำน้ำจุดแรกของทริป ก็เจอปลาสวยๆ เยอะเลยครับ
เรามาถึงเกือบเทียงครับ ดังนั้นเลยดำน้ำได้แป๊บเดียว แต่ไม่เป็นไรผมมีเวลาอีก 2 วัน สำหรับทริปนี้
เมื่อดำน้ำเสร็จแล้ว เรือจะให้เราขึ้นฝั่งเพื่อไปทานข้าวกลางวันบนเกาะ ซึ่งเป็นอาหารที่ทางอุทยานจัดเตรียมไว้ให้
ตรงหน้าหาดนี้คนเยอะหน่อย เพราะเป็นจุดรับส่งคนขึ้นเกาะ แต่ก็ไม่ทำให้ความสวยงามของชายหาดหายไปนะครับ
เชื่อผมเถอะครับ ถึงแม้จะมีมื้อเที่ยงรออยู่ คุณก็อดไม่ได้ที่จะต้องเก็บภาพทะเลน้ำใสๆ แบบนี้
หาดทรายของที่นี่ขาวละเอียดเป็นผงแป้งเลยล่ะ เวลาคลื่นซัดเราจะเห็นทรายเหมือนแป้งที่มากับคลื่น ..สวยงามมากครับ
มีเวลาอีกพอสมควรบนเกาะนี้ครับ ดังนั้นเดี๋ยวเราเดินดูบนเกาะกันก่อนเลยดีกว่า
ชื่อจริงๆ ของเกาะนี้คือ “เกาะเมียง” ครับ ซึ่งเป็นเกาะลำดับที่สี่ของ หมู่เกาะสิมิลันนั่นเอง
สำหรับท่านที่ต้องการค้างคืนบนเกาะ ก็สามารถแจ้งเช็คอินได้ที่นี่ครับ แต่การจองนั้นเราต้องจองมาก่อนนะ จะมาจองวันที่พักเลย ผมคิดว่าไม่น่าจะได้ เพราะอุทยานต้องรู้จำนวนคนพักก่อน
ซึ่งหากเราใช้บริการบริษัททัวร์ เค้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เราหมด
อันที่จริงผมอยากไปถ่ายห้องพักมาให้ชมกันด้วย แต่ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เค้าเช็คอินเช็คเอ้าท์กันพอดี มันเลยดูวุ่นวายไปหน่อย เลยได้ถ่ายแค่ป้ายชื่อบ้านมาให้ชมกัน ท่านใดที่ชอบความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ผมแนะนำบ้านชมวิวครับ เวลาท่านซื้อทัวร์สิมิลันแล้วอยากพักบนเกาะ แนะนำให้ระบุไปเลยครับว่าอยากพักบ้านหลังนี้ จะว่างหรือเปล่านั้น ก็ต้องวัดดวงกันเอาเอง
มื้อเที่ยงบนเกาะนั้น ทางอุทยานจะเป็นคนจัดเตรียมให้เอง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเดินทางกับบริษัททัวร์อะไร คุณก็ต้องกินเมนูอาหารเดียวกันหมดครับ หลักๆ ก็จะมี สปาร์เก็ตตี้ ไก่ทอด แกงจืดฟักน่องไก่ ผัดผักรวมมิตร ปลาทอด ผัดพริก และก็ผลไม้
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็เข้าสู่โหมดพักผ่อนตามอัธยาศัยครับ ทัวร์จะให้เวลาเราถึง บ่าย 2
ดังนั้นช่วง 11 โมงถึง บ่าย3 จะเป็นช่วงที่เกาะสี่คนเยอะที่สุดครับ แต่ไม่ได้เยอะจนทำให้อึดอัดครับ ยังเล่นน้ำ อาบแดด ถ่ายภาพได้สบายๆ
คลื่นที่หาดของเกาะสี่อาจดูเหมือนแรง เป็นเพราะคลื่นจากเรือครับ ตกเย็นๆ หาดนี้โรแมนติกมากขอบอก
เราสามารถเล่นน้ำได้ในโซนซ้ายและขวามือของหาด ส่วนตรงกลางเค้าใช้เชือกกั้นไว้ให้เรือจอด เพื่อความปลอดภัยครับ
อันตัวผมนั้นทริปนี้บินเดียว(อีกแล้ว)จะไปลงเล่นน้ำ ก็ไม่รู้จะเล่นกะใคร เลยได้แต่เดินถ่ายภาพแบบนี้แหละ
ทรายเนียน ทะเลใส สีสวยจริงๆ ตามภาพเลยครับ ผมรับประกันว่าคุณเห็นภาพจากเวปนายหัวยังไง ของจริงก็จะเจอแบบนั้นแน่นอน
ริมขวามือสุดของหาดจะติดกับป่าบนเกาะ ซึ่งสามารถขึ้นชมวิวด้านบนได้ แต่ผมยังไม่ขึ้นตอนนี้ครับ เก็บแรงขาไว้ดำน้ำก่อนดีกว่า
หากท่านใดพักที่บ้านชมวิว ท่านก็จะเห็นวิวประมาณนี้นะครับ เพราะบ้านชมวิวอยู่ริมขวามือสุดของหาด
รู้หรือเปล่าว่าริมหาดแบบนี้ ดูเหมือนจะมีแค่ทรายกับน้ำทะเลสีสวย แต่มีปลาเยอะมาก เราสามารถดำน้ำดูปลาได้ตรงนี้เลย ไม่ต้องไปไกล
ผมอยู่ที่สิมิลัน3วัน 2คืน ดังนั้นผมยังมีเวลาอีกเยอะ จุดชมวิว และดำน้ำริมหาด เก็บไว้ก่อน อิอิ
จากภาพจะเห็นได้ว่ามีนักท่องเที่ยวบนหาดเยอะพอสมควร ซึ่งทุกคนก็รอออกจากเกาะประมาณบ่าย2 เหมือนกันหมดครับ
ว้าาาาา กะลังถ่ายภาพวิวเพลินๆ เลย เรือเค้าเรียกกลับซะล่ะ
คนที่กลับฝั่งหรือจบทริปแล้ว จะมี Speed boat มาคอยรับกลับครับ
ส่วนคนที่ค้างคืนไม่ว่าจะค้างบนเรือ หรือบนเกาะ ก็ต้องยืนรอเรือเล็ก รับส่งขึ้นเรือใหญ่ เพื่อไปดำน้ำต่อ
แต่ถ้าใครไม่อยากไปดำน้ำ ก็สามารถขอพักผ่อนอยู่บนเกาะได้ครับ
เอาล่ะออกเดินทางไปจุดดำน้ำจุดต่อไปกันเลยดีกว่าครับ ไม่ว่ามองไปทางไหนที่สิมิลัน ก็จะเจอแต่น้ำใสสีครามแบบนี้แหละ
ทีนี้ก็ถึงเวลาชมวิวใต้น้ำกันบ้างแล้วล่ะ
ภาพใต้น้ำจะเอามาให้ชมกันพอหอมปากหอมคอนะ ผมจะโฟกัสไปที่ คลิปใต้น้ำมากกว่า ซึ่งสามารถชมได้ท้ายรีวิวนี้ครับ
เจ้าตัวนี้ชื่อว่า จักรพรรดิหูช้าง ไกด์บอกว่าหาดูได้ยาก
สิมิลันเป็นแหล่งดำน้ำที่น้ำค่อนข้างลึกนะครับ จุดเด่นคือจำนวนของปลาที่เยอะ แต่ปะการังนั้นก็พอมีให้เห็นบ้าง
ดังนั้นหากใครต้องการถ่ายภาพใต้น้ำแบบใกล้ๆ แล้วใช้ snorkle+ชูชีพ ก็อาจจะถ่ายภาพลำบากนิดนึง เพราะลงไปใต้น้ำไม่ได้
พอกลับขึ้นมาจากดำน้ำ เราก็จะได้กลิ่นหอมๆ และนี่คือคนต้นกลิ่นที่ว่านั่นเอง
เมนูอาหาร ผมบอกได้เลยว่า แหล่มกว่าบนเกาะเยอะครับ
เอ๊ะ!! แล้วนั่นคือห้องอะไรล่ะ
มันคือห้องนอนของนักท่องเที่ยวที่พักบนเรือครับ มีทั้งหมด 10 ห้อง
และนี่ก้อคือห้องของผมครับ ทุกห้องจะเป็นเตียงสองชั้นเหมือนกันหมด และมีแอร์ให้ด้วยนะเออ
ชั้นบนสามารถชมวิวตอนเช้าๆ ได้เลยนะ ไปกันสองคนเลือกสรรกันเองล่ะกัน สำหรับผมนอนดิ้น คงต้องจองชั้นล่างล่ะ กลัวจะตกเตียงกลางดึก
จากประตูไปยังเตียง ก็พอจะเดาความกว้างของห้องได้นะ ดังนั้นควรจะรู้ไว้ด้วยว่า นี่คือที่พักบนเรือไม่ได้สบายเหมือนฝั่งนะ แต่มันได้บรรยากาศ อิอิ
ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวม ซึ่งมีทั้งหมด 5 ห้อง สะอาดครับ คอนเฟิร์ม
ก่อนมื้อเย็นวันนี้มีปลาโลมาขึ้นมาทักทายพวกเราชาวเรือกันด้วย
จับภาพยากมากครับ เพราะเค้าเป็นโลมาธรรมชาติไม่ใช่โลมาที่โดนฝึก ขึ้นมาบนน้ำเร็วมากๆ สงสัยจะอายเนาะ
เอาล่ะได้เวลามื้อเย็นกันแล้ว อาหารบนเรือดีกว่าบนเกาะแน่นอนครับ ผมคอนเฟิร์ม
มื้อนี้ก็คงต้องอิ่มทั้งข้าวทั้งบรรยากาศล่ะ
มื้อเย็นเสร็จเรือจะไม่ไปส่งคนบนเกาะทันที แต่จะจอดเทียบท่าที่หน้าเกาะสี่ เพื่อให้ชมพระอาทิตย์ตกกันก่อน
หากใครมองไม่ถนัด หรืออยากถ่ายภาพในมุมที่ไม่มีคนบัง แนะนำให้ขึ้นไปดาดฟ้าเรือเลยครับ
แต่ผมขอจองหัวเรือนี่แหละ พอได้บรรยากาศแล้ว มันไม่อยากไปไหนอ่ะ
วันนี้ต้องบอกว่าท้องฟ้าสีสวยจริงๆ ไม่ว่าเรือลำไหน ก็มีแต่คนออกมาถ่ายรูปกันเต็มเลย
ก่อนจะสิ้นแสงสุดท้ายของวัน ขอไปยืนบนดาดฟ้าเรือกะเค้าหน่อยละกัน เพราะรู้สึกอายล่ะ นั่งหัวเรืออยู่คนเดียว
มีเรือหลายลำนะครับ ที่จอดค้างคืนหน้าเกาะสี่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรือที่เค้าเหมาลำมา
พออาทิตย์ลับขอบฟ้า เรือเล็กจะไปส่งคนที่พักบนฝั่ง
ลานโดยสารของเรือ ก็ดูกว้างขึ้นมาทันทีครับ เพราะเหลือแต่คนที่พักบนเรือเท่านั้น
สามารถนั่งเล่น นอนเล่น ดูหนังได้จนดึกพอสมควรครับ มีกาแฟ ขนมปัง ผลไม้ ให้กินตลอด
หนุ่มโสดโอดครวญแบบผม ก็ต้องนั่งชมวิวคนเดียว ก่อนนอนแบบนี้แหละ
————
ต้อนรับวันใหม่ด้วยมื้อเช้าแบบอเมริกัน จัดเต็มแบบุฟเฟต์นะครับ
สิมิลันยามเช้าลมเย็นกะลังดี นั่งกินไปรับลมไป ชิวใช้ได้เลยล่ะ
สำหรับคนที่พักบนเกาะ จะมีเรือเล็กไปรับมาทานมื้อเช้าบนเรือครับ และก็ออกเดินทางไปดำน้ำต่อเลย วันนี้ดูแล้วคลื่นสูงเอาการ เลยคิดว่าดำน้ำน่าจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ผมเลยเลือกที่จะอยู่บนเกาะในช่วงเช้าแทน นี่คือเต๊นท์ที่พักสำหรับคนพักบนเกาะครับ ซึ่งอยู่หน้าหาดเลย ส่วนที่พักที่เป็นห้องจะอยู่โซนหลัง
เป้าหมายของผมคือขึ้นไปจุดชมวิวของเกาะสี่
เดินไปตามเส้นทางสักพักจะเจอสามแยก เลี้ยวขวาขึ้นจุดชมวิว ถ้าตรงไปจะโผล่ที่หาดเล็ก
หาดเล็กเอาไว้ขากลับครับ ตอนนี้เอาแรงไปขึ้นจุดชมวิวก่อน ก็ไม่ชันอะไรมากนะ แค่ต้องไต่เชือกบ้างบางช่วง อิอิ
มีทั้งมุด ทั้งปีน ทั้งไต่ แนะนำให้ใส่รองเท้าขั้นไปนะครับ เพราะหินคม พื้นร้อน แต่ระวังลื่นหน่อยล่ะกัน
ผมขึ้นมาในช่วงเช้าเพื่อเลี่ยงแดดที่ร้อน ข้างบนลมเย็นดีมากครับ ส่วนใครอยากได้ภาพสวยๆ ให้ขึ้นไปช่วง 11 โมงนะ
หาดที่เห็นในภาพคือหาดเล็กครับ สังเกตดูว่าจะไม่มีเรือเลย ใครอยากพักผ่อนเงียบๆ ผมแนะนำให้มาหาดนี้นะ กลางวันอาจจะมีคนบ้างแต่ก็ไม่เยอะเท่าหาดที่หน้าเกาะสี่แน่นอน
เมื่อลงมาจากจุดชมวิว ผมก็มานั่งชิลๆ ต่อที่หาดเล็กครับ ทะเลสวย แดดอ่อนๆ คนก็น้อย บอกเลยฟินมาก
วันนี้ช่วงเช้าคลื่นยังแรงอยู่ แต่ไม่มีปํญหาสำหรับผม เพราะไม่ได้เน้นเล่นน้ำอยู่แล้ว แต่ชอบนั่งดูสาวเล่นน้ำมากกว่า อิอิ
จากนั้นผมกลับไปดำน้ำ ชายฝั่งหน้าหาดเกาะสี่ครับ
ขอย้ำนะครับว่านี่เป็นการดำน้ำที่หาด ให้สังเกตดูที่ภาพ น้ำลึกแค่คอผมเท่านั้น แต่ปลามีให้ชมเป็นฝูงเลยครับ
พอผมลอยตัวบนผิวน้ำเจ้าปลาฝูงนี้ ก็ว่ายม้วนกันเป็นวงกลมเลยครับ บอกได้เลยว่า แค่ชายหาดก็มีปลาให้ชมเยอะมากๆ ครับ
ปลานกแก้ว เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่เยอะมาก ตรงริมหาดหน้าเกาะสี่
ท่านใดที่ว่ายน้ำไม่เป็น หรือกลัวน้ำลึก ผมแนะนำว่าให้เอา snorkle+ชูชีพ ถือไว้กับตัวครับ พอขึ้นฝั่ง ท่านก็สามารถดำน้ำได้เองทุกจุดเลย


เมื่อดำน้ำจนสาแก่ใจแล้ว เราก็สามารถกินมื้อเที่ยงบนเกาะที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ แล้วรอบ่ายสอง เราจะออกไปดำน้ำกันอีกที

รอบบ่ายวันนี้น้ำขุ่นพอสมควรครับ หลายๆ จุดมองไม่ค่อยเห็นปลาเท่าไหร่
ใครๆ ก็พากันกลับเรือ แต่ผมเลือกที่ดำน้ำไปดูแถวโขดหินแทน ปลาอาจตัวเล็กไปนิด แต่ก็ดีกว่าเสียเที่ยว
เอาล่ะชมกันพอเป็นกษัยนะครับ น้ำมันขุ่นถ่ายไรไม่ค่อยเห็นเลย
ตกเย็นเรือจะเปลี่ยนจุดจอดจากเกาะสี่ มาเป็นเกาะแปดครับ เมื่อlocation เปลี่ยน เราก็ได้บรรยากาศอีกแบบนึง
ตรงจุดเรือจอดก็สามารถดำน้ำได้ครับ แล้วผมก็เจอเจ้าปลาหินครับ ไกด์บอกว่าเจ้าตัวนี้ใช่ว่าจะเจอมันง่ายๆ นะ
ใกล้ๆ กันนั้นก็มีเจ้านีโม่ตัวน้อยด้วยครับ เสียดายตรงที่เวลาเริ่มจะเย็นแล้ว แสงเลยดูหม่นๆ ไปหน่อย
เจ้าตัวเล็กนี่ อยู่ลึกซะด้วยครับ แต่เค้าอยู่ใต้ท้องเรือนี่เอง ผมเลยต้องกลั้นหายใจกันหลายรอบ เพื่อเก็บภาพเจ้านี่ (เหนื่อยมาก บอกเลย)
เอาล่ะพอก่อน ดำน้ำเยอะๆ เดี๋ยวหูจะแตกซะก่อน แค่นี้ก็ปวดหู จนมึนไปหมดแล้วครับ
เรือจอดตรงอ่าวเกือก หรือตรงหินเรือใบซึ่งเป็น Logo ของสิมิลันนั่นแหละครับ
ช่วงนี้เป็นอีกช่วงนึงครับที่พลาดไม่ได้ ผมเลยใช้ดาดฟ้าเรือเป็นที่มั่นในการชมวิวครั้งนี้
ช่วงเวลานี้เรือทุกลำ จอดนิ่ง เพื่อให้ผู้โดยสารได้เสพบรรยากาศกันอย่างเต็มที่
สิมิลันช่วงนี้ ช่างแตกต่างกับช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิงครับ เป็นไปได้อยากหยุดเวลาแบบนี้ไว้ให้นานจริงๆ
ผมเองก็แปลกใจว่าทำไมวันนี้อารมณ์มันฟินมากเป็นพิเศษ ..ที่แท้เพราะฤทธิ์เพื่อนผมป๋องนี้นี่เอง อิอิ (ป๋องละ 60 ก็ต้องยอม)
สมาชิกชมวิวบนดาดฟ้าเรือวันนี้ และทั้งหมดนี้ก็คือผู้โดยสารที่พักบนเรือ เหมือนผมครับ
คราวนี้ผมถ่ายภาพ Time Lapse มาให้ชมกันด้วย ภาพจริง บรรยากาศจริงครับ
https://youtu.be/Sx_X1yE2tWk
แป๊บเดียวพระอาทิตย์ขี้อาย ก็หนีเราไปอีกแล้ว
ตกค่ำใครจะดูหนัง บนเรือเค้าก็มีให้ดูครับ ส่วนผมก็ต้องรีบเข้านอนเก็บแรงไว้ดำน้ำต่อพรุ่งนี้
——————
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปสิมิลัน 3วัน 2คืนของผมแล้วล่ะ บอกตรงๆ ดำน้ำมาสองมาสองวันแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยล่ะ
วันนี้จุดแรกที่ดำน้ำคือ อ่าวตาแก่ครับ ไกด์บอกว่าเป็นจุดที่เจอเต่าทะเลบ่อย
แต่ถึงแม้ไม่เจอเจ้าเต่า แต่เราเจอน้องนีโม่เยอะเลยครับ
ถึงแม้วันนี้คลื่นจะแรงมาก น้ำก็ลึก แต่โชคดีที่เจ้านีโม่เค้าอยู่บนปากะรังที่สูง เลยพอจะถ่ายรูปมาได้บ้าง
เจ้าสองตัวนี้ตัวใหญ่กว่าที่เจอเมื่อวานเยอะครับ ไกด์บอกว่าที่นี่สมบูรณ์กว่า และเจอนีโม่ได้มากกว่า
ใกล้ๆ กันนั้นก็มีอีกกลุ่มครับ ตัวเล็กกว่า แต่มีหลายตัวเลยล่ะ
มองไปมองมาหน้าเค้าก็คล้ายๆ คนเลยเนาะ
ที่ปะการังกลุ่มเดียวกัน ก็มีเจ้ากุ้งมังกรตัวน้อย โผล่แค่หนวดมาให้ชมกันด้วย ผมไม่ได้เจอเองนะ ไกด์เค้าชี้ให้ดูครับ
วันสุดท้ายนี่บอกได้เลยว่าน้ำใสปิ๊ง ใต้ทะเลสวยมาก ดำน้ำเพลินจนลืมถ่ายภาพกันเลยทีเดียวเชียว
สุดท้าย ท้ายสุด ก่อนขึ้นเรือ ก็เจอเจ้านีโม่อินเดียน ไกด์เค้าบอกนะ ผมเองไม่รู้หรอกว่า พันธุ์อะไร แหะๆ
หน้าตามันก็ไม่ค่อยจะคล้ายนีโม่ที่เราคุ้นๆ นะ แต่เค้าบอกว่ามันคนละสายพันธุ์กัน แต่ก็สวยดีครับ
หลังจากดำน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวกลับขึ้นเกาะกันอีกครั้งครับ เพื่อทานข้าวและรอเรือมารับกลับฝั่ง
ไฮไลท์ของเกาะแปด ก็คือหินเรือใบนั่นเอง ดังนั้นเมื่ออยู่บนเกาะสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ จุดชมวิวครับ
ระยะทางไม่ไกลครับ แต่หินร้อนและคม ควรใส่รองเท้าขึ้นไป แต่ควรเลือกรองเท้าที่ไม่ลื่นและต้องกระชับคล่องตัวหน่อยนะ
แต่พอขึ้นไปถึงคุณจะลืมความลำบากและลืมแดดร้อนๆ ไปเลยครับ เพราะวิวมันสวยมาก
บนจุดชมวิวมีป้ายเตือนห้ามเข้าบางจุดเนื่องจากเสี่ยงต่อการตกหน้าผา เราคนไทยควรปฏิบัติตามกันหน่อยก็ดีครับ อย่าไปบ้าตามฝรั่งมากนัก
มองจากมุมบนแล้วเห็นได้ว่า วันนี้คนยังน้อยมากครับ เนื่องจากผมขึ้นมาเป็นชุดแรกๆ
ตรงแก่งหินด้านล่าง เราสามารถดำน้ำได้นะครับ ปลาเยอะมาก แถมน้ำตื้นไม่อันตราย
มองไปทางขวามือของจุดชุมวิว จะเป็นโขดหินยื่นออกไปกลางทะเล ตรงจุดนี้เป็นจุดยืนที่กว้างที่สุดและมองเห็นเกาะแปดได้ทั้งสองฝั่ง
ผมใช้เวลาอยู่บนจุดชมวิวนี้ไม่นานมากนัก เพราะพื้นที่มันแคบและอากาศร้อนมาก พอคนเริ่มขึ้นมาเยอะผมเลยต้องชิ่งกลับก่อน
หลังจากนั้นก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารของอุทยานตามปกติครับ และก็นอนเล่น ชมวิวไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเรือมารับกลับฝั่งอีกทีบ่าย2
การเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน
สิมิลันตั้งอยู่ในจังหวัดพังงา ดังนั้นการเดินทางเราต้องลงเรือที่ทับละมุครับ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพักที่พังงาเสมอไป เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักกันที่ภูเก็ต หรือลงเครื่องที่ภูเก็ต หลังจากนั้นก็สามารถขับรถไปยังท่าเรือทับละมุได้ โดยใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น อันนี้ควรสอบถามเวลาเรือให้ดี และก็เช็คเที่ยวบินให้ดีด้วยครับ
ส่วนตัวผมเลือกที่จะไปถึงภูเก็ตเย็น และพักคืนนึงก่อน เพื่อนอนเอาแรงและเตรียมความพร้อมต่างๆ หลังจากนั้นตกเช้าจะมีรถตู้มารอรับหน้าทีพัก เพื่อเดินทางไปท่าเรือทับละมุครับ
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องเรียนให้ทราบคือ เกาะสิมิลัน เราไม่สามารถไปเองได้เหมือนเกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะล้าน หรือเกาะสีชังนะครับ เพราะที่สิมิลันไม่มีเรือเมล์ เราต้องใช้บริการของทัวร์เท่านั้น
ที่พักเกาะสิมิลัน
ที่พักเกาะสิมิลันนั้นจะมี 2 แบบคือ
1.พักบนเกาะกับทางอุทยาน โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบห้องพักติดแอร์ และแบบเต๊นท์ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับราคาและความถนัดของแต่ละคนครับ ถึงแม้ทริปนี้ผมจะไม่มีรีวิวห้องพักมาฝาก แต่จากที่ผมเดินๆ ดู ห้องพักอุทยานนั้น ถือว่าดีเลยครับ สะอาด ปลอดภัย และห้องนั้นกว้างพอสมควร
ส่วนเต๊นท์นั้นก็มีเครืองนอนต่างๆ ให้พร้อมสรรพครับ ท่านที่ต้องการพักบนเกาะ จะจองเองโดยตรงกับอุทยานก็ได้ แต่ผมแนะนำให้จองกับทัวร์ ตอนที่ท่านซื้อแพ็คเกจทัวร์สิมิลันเลยดีกว่า ทางบริษัททัวร์เค้าจะจัดการให้เอง ซึ่งผมมองว่าสะดวกกว่า ราคาก็รวมอยู่ในแพ็คเกจนั้นเลย ที่พักของอุทยานจะมีสองเกาะคือ เกาะสี่ และเกาะแปด
2. พักบนเรือกับบริษัททัวร์ การพักบนเรือคุณจะได้บรรยากาศการพักผ่อนที่แตกต่างออกไปครับ แต่ต้องแลกกับความสะดวกสบาย เพราะที่พักบนเรือไม่ได้กว้างขวางเหมือนห้องพักบนเกาะ แต่มีแอร์ทุกห้องนะครับ
ผมมองว่าที่พักบนเรือนั้นเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นคู่ครับ เพราะบรรยากาศตอนเย็นนั้นมันโรแมนติคเอามากๆ เลยครับ ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวม สะอาดครับ ไม่ต้องกังวล ตามภาพที่ผมได้รีวิวไว้แล้ว ส่วนเรืองราคานั้นเหมารวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์อยู่แล้วครับ
ผมแนะนำว่าหากมีโอกาสก็ควรลองนอนบนเรือดูสักครั้ง เพราะมันเป็นรสชาดและประสบการณ์ของชีวิตน่ะครับ
คำแนะนำสำหรับการไปทัวร์เกาะสิมิลัน
1.ไม่แนะนำให้ไปทริปวันเดียวครับ เพราะการเดินทางไปเกาะสิมิลันจากฝั่งถึงเกาะใช้เวลา ก็ชั่วโมงกว่า กว่าจะออกจากท่าเรือไปถึงเกาะก็เกือบเที่ยง ดำน้ำได้จุดเดียว ขึ้นฝึ่ง และรอกลับ ผมมองว่า มันเหมือนไปไม่ถึงสิมิลันนะ
อีกทั้งยังต้องเหนื่อยกับนั่งเรือไปกลับ ไหนจะนั่งรถกลับที่พักอีก อย่างน้อยๆ ก็ควรเลือก ทริปสิมิลัน 2วัน 1 คืน นะครับ
2. เมื่อเราลงเรือจากฝั่ง เราแทบจะไม่ได้ใช้รองเท้า จะใช้แค่ตอนอยู่บนเกาะเท่านั้น ดังนั้นควรเลือกรองเท้าที่เป็นยาง ถอดสะดวก เดินสะดวก หายก็ไม่เป็นไร แนะนำให้เตรียมไปให้พร้อม อย่าไปซื้อที่ท่าเรือ เพราะมันแพงเวอร์ (ผมโดนมาแล้ว)
3.โลกใต้น้ำที่สิมิลันจะเด่นเรืองปลาที่มีจำนวนเยอะ แต่ปะการังนั้นอาจจะไม่เยอะเหมือนเกาะสุรินทร์หรือเกาะหลีเป๊ะนะครับ ควรทำใจไว้บ้าง แต่ยังไงก็แล้วแต่ปะการังก็ยังสวย และมีให้ชมเยอะกว่า เกาะตาชัย และเกาะอื่นๆ ทางทะเลตะวันออก
อันนี้ผมพูดถึงเฉพาะการดำน้ำโดย Snockle เท่านั้นนะ ไม่รวมการดำน้ำลึก
4.อาหารการกินบนเกาะ รับผิดชอบโดยอุทยาน ไม่ว่าทัวร์ไหนๆ ก็ต้องกินเมนูเดียวกันครับ ดังนั้นเราต้องเข้าใจอุทยานด้วยว่า เค้าไม่ใช่เอกชนที่จะตอบสนองความต้องการของเราๆ ท่านๆ ได้ทั้งหมดในเรืองรสชาด และเมนู เพราะอาหารต้องทำเผื่อคนต่างชาติทานด้วย
5.เที่ยวให้ทั่วครับ อย่าเพลิดเพลินอยู่กับหาดสวยอย่างเดียวนะ จุดชมวิวของแต่ละเกาะมีดีของมันในตัว ไปถึงเกาะแล้วก็ต้องไม่พลาดนะ
6.แจ้งไกด์ให้ทราบด้วยว่า ท่านต้องขึ้นรถ ขึ้นเครื่องกี่โมง เค้าจะได้ทำเวลาได้ถูก เพราะบางครั้งระยะการเดินทางกลับ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยครับ
7.เลือกซื้อทัวร์สิมิลันที่รวมบริการทุกอย่างแล้ว ไม่งั้นท่านจะได้ทัวร์สิมิลันราคาถูก แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีกทีหลัง สนใจทัวร์สิมิลันแบบเดียวกับผม
ติดต่อได้ที่
บริษัททัวร์สิมิลัน ตาชัย
มือถือ: 089-726 1788, 086-667 4446, 088-766 1611
โทรศัพท์: 076-680 788 Fax: 076-306 058
เวปไซต์: www.similantachai.com
สนใจทริปหรือแพ็คเกจทัวร์ภูเก็ตเพิ่มเติมก็สอบถามได้จากเบอร์โทรดังกล่าวได้เช่นเดียวกันครับ
จบทริปทัวร์สิมิลันของผมแล้วล่ะ ทริปนี้มีภาพใต้น้ำมาฝากกันด้วยเนาะ ส่วนคลิปจะเป็นคลิปรวมที่ดำน้ำทุกจุดครับ หวังว่ารีวิวนี้ของเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง นายหัว
อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus OMD EM5, Gopro Hero4
เลนส์ :zuiko 12-50/f3.5-6.3