ภูทับเบิกหน้าฝน
คืนวันเสาร์ที่ 11 ผมจับเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เดินทางไปยังหมอชิต เป้าหมายของผมคือ ภูทับเบิก ผมมีเวลาเพียง 1 วัน สำหรับการเที่ยวครั้งนี้ ดังนั้นจึงต้องเดินทางคืนวันเสาร์ เพื่อไปให้ถึง ภูทับเบิก ของเช้าวันอาทิตย์ พัก 1 คืน และเดินทางกลับในเช้าวันจันทร์
การเดินทางไปภูทับเบิก ก่อนหน้านี้ผมขับรถขึ้นไปเอง สมาธิจึงต้องจดจ่ออยู่กับเส้นทางที่คดโค้ง และสูงชัน นั่นเป็นสาเหตุให้ผมพลาดวิวสวยๆ ระหว่างทางไปจำนวนมาก มาคราวนี้ผมจึงเลือกใช้วิธีการเดินทางโดยรถทัวร์ โดยปลายทางของผมคือสถานีตลาดหล่มสัก หลังจากนั้น ก็ติดต่อรถสองแถวให้มารับผมไปยังภูทับเบิก
รถสองแถว นอกจากจะมีบริการรับส่งขึ้นภูทับเบิกแล้ว เค้ายังมีบริการพาทัวร์เขาค้อด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับ คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีรถ แต่ฝีมือไม่แก่กล้าพอที่จะขับขึ้นไปเอง และการเหมารถสองแถวยังเหมาะกับการไปเที่ยวกันเป็นหมู่คณะหลายๆ คนด้วย
อัตราค่าบริการสำหรับรับส่งขึ้นลงภูทับเบิกนั้น อยู่ที่ประมาณ 1500-2000 ต้องบอกไว้ก่อนว่าราคานี้ไม่ได้ตายตัว เราสามารถต่อรองได้ตามความเหมาะสมครับ ส่วนเรื่องค่านำทัวร์เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า นั้น ราคาก็เพิ่มขึ้นมาอีกไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง หากไปกันหลายๆ คน ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจครับ ลดภาระเรื่องการขับรถ ลดความเสี่ยงกับเส้นทางที่คดโค้งบนภูเขา และราคาน่าจะถูกกว่าราคาน้ำมันที่ต้องเติม หากนำรถไปเอง
ติดต่อรถสองแถว โทร 087-2125509 คุณสมบูรณ์ , 090-4520441 คุณกุ๊ก
จากสถานีตลาดหล่มสัก ถึงภูทับเบิก ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง (คนขับชำนาญ) ระหว่างทาง ผมเจอสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ตามสไตล์ของภูทับเบิก นั่นคือ เราจะเห็นไร่กะหล่ำปลี ตลอดเส้นทาง อีกทั้งยังได้รับความสนุกสนานเร้าใจ จากการเหวี่ยงของรถแบบพอดีๆ ในตอนเข้าโค้งอีกด้วย รับประกันว่าจะไม่มีอาการเมารถ หรืออ้วกครับ เพราะอากาศเย็นสบาย เอาเป็นว่าถ้าขับรถขึ้นไปเอง ไม่มีทางได้นั่งชมบรรยากาศแบบนี้แน่นอน
ช่วงเดือนนี้ (กรกฏาคม) เป็นหน้าฝน ภูทับเบิก จะไม่หนาวมาก เหมือนหน้าหนาวครับ แต่อากาศอยู่ในสถานะที่เย็นสบายตัว ประมาณ 23-26 องศา แต่ถ้าฝนตกอุณหภมิจะลดลงเหลือประมาณ 18-20 องศา
เวลาเที่ยงตรงที่ภูทับเบิกอากาศจะร้อนสลับเย็นครับ ความเย็นที่ว่าก็มาจากหมอกที่ลอยมาเป็นระยะๆ ตามกระแสลม เอาเป็นว่า หากไปภูทับเบิกหน้าฝน ผมรับประกันว่าคุณจะได้เจอกับหมอกอย่างแน่นอน
จุดเด่นของภูทับเบิกหน้าฝน นอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวก็น้อยมากซะด้วย น้อยจนดูกลมกลืนไปกับจำนวนของชาวบ้านแถวนั้นไปเลยล่ะ แต่ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็อาจจะดูเยอะขึ้นมาบ้างนิดหน่อยครับ
เมื่ออากาศดีแบบนี้ ผมจึงเดินท่องไปทั่วภูทับเบิกเลยล่ะ เดินมันไปเรื่อยๆ ครับ เหนื่อยก็พัก ถ่ายรูปไปมั่ง แวะคุยกับกับชาวบ้านมั่ง ตามสไตล์นักท่องเที่ยวหน้าด้านแบบผม
ช่วงตอนเย็นมีฝนตกลงมาหนักมาก นั่นเป็นสัญญาณที่ดีครับ เพราะจากการสอบถามชาวบ้าน ก่อนผมมา ภูทับเบิกนั้น ไม่มีฝนมาเกือบอาทิตย์แล้ว ถึงแม้จะอยู่ช่วงหน้าฝนก็เถอะ แต่สัญญาณที่ดีสำหรับผมก็คือ ถ้าฝนตกตอนเย็น พรุ่งนี้เช้า ผมอาจจะมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกนั่นเอง