รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวภูเก็ต ร้านอาหาร รีสอร์ทที่พัก ภูเก็ต
ภูเก็ต หรือเกาะภูเก็ต หลายคนคงจะจินตนาการไปถึงเกาะที่มีความเจริญ ชายหาดสวยงามที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ผมเองก็คิดเช่นนั้น แต่ด้วยความที่ภูเก็ตเป็นเมืองเก่า จึงมีอีกหลายๆ อย่างให้ค้นหา หาใช่แต่ทะเลที่สวยงาม หรือรีสอร์ท ที่พัก หรูๆ เท่านั้น อาหาร วัฒนธรรมประเพณี ก็ยังเป็นจุดเด่นของเมืองภูเก็ต ….19.00 น. การเดินทางของผมเริ่มขึ้นที่สถานีขนส่งสายใต้ โดยรถ VIP 24 ที่นั่ง กรุงเทพ ภูเก็ต ใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมง เนื่องจากฝนตกหนักตลอดทาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับทางใต้ ที่ฝนจะตกหนักในเดือนเมษายน ก่อนวันสงกรานต์
ผมเริ่มเช้าวันใหม่ที่ภูเก็ต ด้วยขนมจีนและติ่มซำที่ร้าน เก็ตโฮ่ ติ่มซำ
น้ำยาขนมจีน เค้ามาพร้อมเนื้อปลานิ่มๆ แต่แฝงไปด้วยรสชาดที่แอบเผ็ดเล็กๆ ตามประสาปักษ์ใต้
ติ่มซำของภูเก็ตนั้น จะคล้ายๆ กับติ่มซำของเมืองตรัง แต่เมนูแต่ละอย่างนั้นหลายหลายจน เลือกไม่ถูกจริง
ในช่วงเวลที่หิวโหยแบบนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องนั่งอดทนกับกลิ่นหอมๆ ของอาหารแบบนี้ …ขอตัว
สถานที่ท่องเที่ยวต่อไป ก็คือ วัดพระใหญ่ ถือได้ว่าตอนนี้ เป็น Landmark ของภูเก็ตเลยก็ว่าได้
ผมมาทันพระสวดก่อนเพลพอดี เรียกได้ว่าสงกรานต์นี้ได้ทั้งเที่ยว ทั้งไหว้พระ ทำบุญ ครบกันเลยทีเดียว
แต่แปลกใจนิดนึง ตรงที่ว่าชาวบ้านที่มาทำบุญนั้น กลับกลายเป็นชาวพม่า และฝรั่งซะส่วนใหญ่
หาคนไทยได้น้อยมาก
ขนมที่เห็น คล้ายๆ ขนมสอดไส้ ทางบ้านผม(ตรัง)จะเรียกว่าขนมโค แต่ของภูเก็ตเค้าใหญ่กว่า สีเข้มกว่า
นี่เป็นอาหารที่ใช้ถวายพระ สำหรับเพลนี้ เห็นแล้วก็แทบจะกลืนน้ำลาย อิอิ
พระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงบูรณะครับ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เท่าไหรนัก
และเราก็สามารถชมวิวเมืองภูเก็ต ได้จากตรงจุดนี้ ได้เลยเช่นกัน
หลังจากนั้นนั่งรถไปดูเค้าเล่นสงกรานต์กันในเมือง ขับรถวนดูฝรั่งกับพม่าเล่นสงกรานต์จนเพลิน
ก่อนกลับเข้าที่พักที่ Luckna House Resort
ผมกลับถึงห้องพักเกือบค่ำเลยล่ะครับ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน อยากจะนอนซะแล้วสิ
แต่ยังนอนไม่ได้ครับ ใช่ว่าจะง่วงอย่างเดียวที่ไหน หิวด้วยอีกต่างหาก ต้องรีบเก็บของและไปหาไรกินกันก่อน
Luckna House เป็นรีสอร์ทสไตล์ Pool Villa ครับ มีบ้านพักเพียง 6 หลังเท่านั้น
สระว่ายน้ำที่นี่ให้บริการตลอดนะครับ เราอยากเล่นน้ำตอนไหน ก็ตามใจเราเลยล่ะ
บ้านพักแต่ละหลังจะหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ท และมีระเบียงให้นั่งชิลด์ๆทุกห้อง
ด้วยความที่ห้องพักมีจำนวนน้อย บรรยากาศรีสอร์ทเลยดูสงบดีครับ
จองที่ไว้ก่อนเลย คืนนี้ก่อนนอน ต้องมานั่งหาไรจิบริมสระ จั๊กกะหน่อย ถ้าไม่หลับซะก่อนนะ
มื้อเย็นวันนี้ เป็นร้านนายดำ เป็นร้านอาหารแนะนำนะครับ คนเยอะมาก
เป็นร้านอาหารธรรมดาๆ ครับ แต่รสชาดนั้นไม่ธรรมดา ดีหรือไม่ดีอย่างไร ต้องแวะไปชิมเองนะ
ตื่นเช้ามาวันใหม่ แน่นอนล่ะ มื้อเช้าต้องเต็มที่ก่อนออกทริปวันนี้
ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ แขกห้องอื่นยังไม่ตื่นกัน เลยยังไม่มีคนมาเล่นน้ำ บรรยากาศตอนเช้าเงียบดีมาก
เราสามารถสั่งอาหารเช้าไปทานได้ที่ห้อง หรือด้านล่างของห้องได้นะครับ ซึ่งแต่ละห้องจะมีโต๊ะเก้าอี้
เตรียมไว้ให้หมดแล้ว
หลังจากจัดการกับมื้อเช้าเสร็จ ฝนก็ตกลงมาอีกแล้วล่ะ เช้านี้บรรยากาศเลยหงอยๆ ไปนิด
บรรยากาศแบบนี้ อยากกลับไปนอนต่อซะจริงๆ เลย
วันนี้ผมมีโปรแกรมไปเที่ยวเกาะและดำน้ำ เลยต้องนั่งรอดูสภาพฝนฟ้า ไปเรื่อยๆ
ผมลืมบอกไปว่าห้องพักที่ Lucka House Resort ที่มีเพียง 6 หลังนั้น แต่ละหลังมี 2 ห้องนอนนะครับ
ห้องใหญ่จะมีเตียงเดียว ส่วนห้องเล็กนั้นจะมีสองเตียง
ห้องพักห้องใหญ่ ผมถ่ายให้ชมไปแล้ว เมื่อวานตอนค่ำๆ ตอนนี้เรามาดูห้องเล็กกันบ้างดีกว่า
ส่วนใหญ่คนที่มาพักที่นี่เค้าจะเหมาทั้งหลัง มากันหลายคนนี่ พักได้สบายๆเลยครับ
ห้องน้ำที่นี่กว้างและสะอาดดี ทั้งห้องเล็กและห้องใหญ่
ห้องเล็กทุกห้องก็จะหันหน้าหาสระว่ายน้ำ เช่นเดียวกับห้องใหญ่
สรุปสุดท้าย การดำน้ำ ต้องยกเลิกไป เพราะออกเรือไม่ได้ ผมเลยเปลี่ยนไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนห้องพักแทน
พอใกล้เที่ยง ก็ถึงเวลากินอีกแล้วล่ะ วันนี้เราไปลองหมี่สะปำ คุณยายเจียร
เป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อ ของภูเก็ตเค้าล่ะ
นอกจากหมี่สะปำ ที่ขึ้นชื่อแล้ว ก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีกหลายอย่างให้เลือกนะครับ
ลูกชิ้นปลา เป็นเมนูที่อร่อยมากๆ เนื้อปลาแท้ๆ หอมและนุ่มลิ้น อร่อยจริงครับ คอนเฟิร์ม
เมนูต่อไปเป็น หอยทอด ครับ ที่นี่เค้าจะแยกแป้ง ออกต่างหาก หอยสดมาก และไม่มีกลิ่นคาวเลย
หมี่สะปำ เป็นเมนูเด่นของที่นี่ ผมทานโดยไม่ต้องปรุงเลยล่ะครับ รสชาดคล้ายหมีฮกเกี๊ยน
..ความจริงอยากลองสั่งอาหารหลายเมนูนะครับ แต่เป็นช่วงเทศกาลคนเยอะมากๆ 3 เมนูที่เห็นผมรอเกือบชั่วโมงแน่ะ เพราะฉะนั้นใครไปทานช่วงเทศกาล ก็ต้องทำใจไว้หน่อยนะ…
ตกเย็น ก็ขับรถตะเวนเที่ยวไปในเมืองภูเก็ตเรื่อยๆ ครับ ตอนเย็นนั้น เป้าหมายคือ แหลมพรหมเทพ
แต่นอกจากฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจแล้ว คนก็เยอะมาก จนไม่มีที่จอดรถเลยล่ะ เลยตัดสินใจกลับที่พักก่อน
เค้าว่าฟ้าหลังฝนนั้นสวยเสมอ วันนี้ตอนเย็นบรรยากาศที่ Luckna House ดีมาก ไม่พลาดที่เก็บมาฝากกัน
ที่นี่นั้นเหมาะมากสำหรับใครที่ไปเที่ยวภูเก็ตมาแบบเหนื่อยๆ แล้วอยากกลับมาพักนอนเอาแรง แบบเงียบๆ
สระว่ายน้ำที่อยู่กลางรีสอร์ทนั้นเรียกว่าใหญ่ทีเดียวครับ เปิดให้เล่นกันได้ตลอด
เที่ยวกันมาเหนื่อยๆ กลับมา มีรีสอร์ทเงียบๆ มีสระว่ายน้ำให้เล่นกันแบบส่วนตัว
ผมว่าช่วยให้เราผ่อนคลายได้เยอะ ก่อนเข้านอน
สระว่ายน้ำที่นี่ปลอดภัยสำหรับเด็กครับ เพราะพื้นจะลาดจากตื้นไปลึก ดังนั้นจึงเล่นกันได้ทุกวัย
ตอนนี้แขกหลายคนยังไม่กลับกันมา จึงเป็นโชคดีของผมที่จะเก็บบรรยากาศรอบๆ
สระว่ายน้ำนั้นอยู่ติดกับห้องพักเกือบทั้งหมด ดังนั้นปาร์ตี้ริมสระ จึงเป็นกิจกรรมก่อนนอนของแขกเกือบทุกห้อง
ส่วนโซนตรงข้ามของห้องพัก ก็ใช่ว่าจะปาร์ตี้ไม่ได้นะครับ ซึ่งผมเองก็นั่งปาร์ตี้คนเดียวทุกคืนก่อนนอน อิอิ
ด้านหลังรีสอร์ทเป็นเนินดินสูง ช่วยให้ Luckna House มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ
ถึงแม้วันนี้ไม่ได้เที่ยวไหนมากนัก แต่ก็โชคดีที่มีรีสอร์ทสวยๆ ให้ถ่ายรูปเล่น ไม่งั้นผมคงเซ็งแย่
Luckna House ไม่ได้เป็นรีสอร์ทที่กว้าง แต่การจัดสรรพื้นที่นั้นเรียกว่าลงตัวเป็นอย่างมากครับ
โต๊ะนี้เป็นโต๊ประจำผม สำหรับการกินและดื่ม ตลอดที่อยู่ที่รีสอร์ทนี้
ว้าาา เสียดายจัง แป๊บเดียวก็มืดซะแล้วล่ะ นั่นหมายถึง มื้อเย็นมาถึงอีกแล้วเหรอเนี่ย (กินกับนอนจริงๆ )
มื้อนี้เป็นฝีมือของคุณแตง ภรรยาคุณอาร์ท เจ้าของรีสอร์ทครับ
“น้ำพริกกะปิใส่กุ้งเสียบ ” อร่อยเด็ด นายหัวคอนเฟิร์มครับ
เมนูเรียบง่าย ตรงกับสไตล์การกินของผม มื้อนี้เลยทำให้ผมเจริญอาหารเป็นพิเศษ
ในเวลานี้ผมอยู่ในสถานภาพที่ไม่อาจถ่ายภาพต่อไปได้อีก งั้นขอตัวเลยล่ะกัน
หมดไปอีกนึงวัน สำหรับทริปภูเก็ตของผม เรียกว่า กินกับนอนกันชัดๆ
—————
รุ่งขึ้นผมรู้สึกดี๊ด๊า เป็นพิเศษ ฝนตกแต่เช้าก็จริง แต่หลังจากนั้นอากาศแจ่มใส ผมจึงรีบโซ้ยมื้อเช้าอย่างเร็วไว
วันนี้มีไข่กระทะ แบบฉบับของ Luckna House อิ่มแปล้กันเลยทีเดียวเชียว
ผมได้เดินหาดเป็นวันแรก สำหรับทริปภูเก็ตครั้งนี้ ฟ้าหลังฝนนี่มันสวยจริงๆ ครับ
หาดกะรน เป็นชายหาดทีมีน้ำอยู่ในระดับที่น่าเล่นมากครับ ไม่ตื้น และไม่ลึกจนเกินไป
ทรายอาจจะไม่ขาวนวล แต่เนียนและละเอียด นุ่มเท้ามากๆ
น้ำประมาณเอว แถมมีคลื่นให้เล่นกันด้วย ถึงว่าฝรั่งเค้าชอบกันนัก
บริเวณหาดกะรน มีบริการ กระโดดร่มชาดหาด้วยครับ แต่เปลี่ยนจากกระโดด เป็นใช้เรือลากแทนครับ
มีนักท่องเที่ยวต่อคิวกันเยอะเลยทีเดียว ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะ 600 บาท ต่อรอบ
น่าสนุกดีนะครับ ปลอดภัยดี เพราะร่วงลงมาก็ลงน้ำ อิอิ แต่รอบนึงแป๊บะดียวเองอ่ะ

หากใครสนใจก็ลองๆ เล่นดูนะครับ เท่าทีผมดูจะมีแค่จ้าวเดียวนะ สำหรับหาดกะรน
อืมม เรากลับมาสนใจชายหาดน้ำใสๆ ของหาดกะรนกันต่อดีกว่าเนาะ
เชื่อหรือเปล่าครับ ว่าที่ผมไปเดินถ่ายภาพ อยู่เนี่ย ผมมีความรู้สึกว่าเป็นแกะดำมากเลย
คือหาคนไทยได้น้อยมากครับ เรียกได้ว่าไม่มีเลย มีแต่ฝรั่งเต็มหาด
ส่วนคนที่ให้บริการต่างๆ บนหาด ทีแรกผมคิดว่าเป็นคนไทย ที่ไหนได้เป็นพม่าซะงั้น
ทุกคนล้วนนุ่งน้อย แต่ผมห่มมิด(กันแดด) แถมถือกล้องเดินถ่ายรูป เรียกว่าสายตาทุกคู่จ้องมาที่ผมหมดเลย
ถึงจะหวั่นใจ แต่ไม่แคร์ ผมเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนเกือบสุดหาดกะรน
ฝรั่งเยอะมาก เดินไม่ระวังนี่ เรียกว่าเหยียบฝรั่งที่นอนอาบแดดได้เลย
สุดท้ายผมต้องยอมถอยครับ เพราะเลยเที่ยงมานานแล้ว ผมต้องรีบไปเติมพลังซะก่อน
เราไปกันที่ ร้านกันเอง เค้าว่ากันว่าเป็นร้านอาหารแนะนำ ของภูเก็ตเค้าล่ะ ป่ะไปลองกันหน่อย
ร้านกันเอง อยู่ตรงท่าเรือ อ่าวฉลอง วิวที่ร้านนี้ถือว่าแหล่มมาก
เมนูแรกเป็นเมนูทานเล่น ผมจำไม่ได้นี่สิ ว่าชื่อเมนูอะไร ชื่อ กระเบื้อง อะไรสักอย่างนี่แหละ
อย่าเข้าใจผิดว่าผมจะจัดหนักนะครับ ผมสั่งแค่อาหารจานเดียวเองนะ เมนูผมเป็น ผัดไทยกุ้งสุด อร่อยจริงครับ เมนูอื่นๆ ก็ราคาไม่แพงครับ(แอบดูราคาในเมนู อิอิ)
ป่ะ เรากลับที่พัก ไปงีบเอาแรงกันก่อน คืนนี้จะไปเดินดูเมืองเก่าภูเก็ตเค้าหน่อย
กลับมาอิ่มๆ แถมฝนตกอีกแล้ว บรรยากาศแบบนี้ ยิ่งส่งเสริมให้ผมต้องรีบพักผ่อนยิ่งนัก (อีกแล้ว)
อ้อ ลืมบอกไป ผมได้ย้ายไปพักอีกห้องนึงซึ่งอยู่หลังสุด ซึ่งติดกับต้นไม้เขียวๆ แถมเงียบดีอีกต่างหาก ถูกใจผมล่ะ
ห้องนี้สีมันโดนใจวัยรุ่นอย่างผมซะจริงๆ ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา ขึ้นมาอีกนิดนึง
ได้นอนห้องใหม่ ก็ได้อารมณ์แบบว่า เพิ่งมาถึงห้องพักวันแรกเลย อิอิ
ระเบียงข้างนอก อาจจะเยื้องกับสระว่ายน้ำมาหน่อย แต่ได้อารมณ์สีเขียวธรรมชาติ ของต้นไม้เข้ามาทดแทน
ฝนก็ตกปรอยๆ อากาศเย็นๆ แบบนี้หาไรจิบหน่อยดีกว่าเนาะ
Wifi Free ทั่วรีสอร์ทนะ ตามมาตรฐานของยุคนี้ ลองไม่มี Wifi ให้ผมดูสิ ผมจะ…..ทนใช้ 3G กากๆ ต่อไป T_T
หลังจากนอนเต็มอิ่ม ผมมุ่งตรงไปในเมืองภูเก็ตทันที แต่ภูเก็ตรถติดใช่เล่นครับ กว่าจะมาถึงก็มืดไปนิด
บริเวณที่เรียกว่า เมืองเก่านั้น จะมีหลายซอยนะครับ ซึ่งถ้าเดินทั้งหมด ก็เหนื่อยใช่เล่น
ผมเลยเลือกเอาซอยนี้ล่ะกัน
ค่ำๆ ที่เมืองเก่านี้จะเงียบมากครับ จะมีร้านเล็กๆ เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน
ต่างกับตอนกลางวันที่ผมแอบมาสังเกตุการณ์ รถบนถนนเยอะใช่เล่น แต่ช่วงนี้มีแต่รถจอดเป็นแถวยาว
ใครอยากจะพักแถวนี้ ก็มีโรงแรมเล็กๆ (Hostel) เยอะนะครับ ผมเห็นฝรั่งพักกันเยอะมาก
ถึงแม้จะมีการอนุรักษ์สภาพตึกเก่าไว้ แต่ด้วยความเจริญของเกาะภูเก็ต ผมมองว่าการอนุรักษ์
ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
ตึกเก่าที่เราเห็นก็ยังมี การก่อสร้างใหม่ๆ เข้ามาแทรกบ้าง จึงทำให้มีความรู้สึกขัดตา บ้างในบางครั้ง
จากที่ผมเดินชมทั้งซอย จะมีการก่อสร้าง เพิ่มขึ้นหลายๆ จุด แต่ก็นะมันก็พูดกันยากสำหรับยุคสมัยนี้
ตึกที่เห็นด้านหน้าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปกันเยอะที่สุด ของซอยนี้ ตึกเป็นสีชมพูทั้งหลัง
ผมไปช่วงค่ำๆ บ้านหรือห้องแถวทุกหลังปิดประตูกันหมดแล้ว บรรยากาศเลยออกเงียบๆ หน่อย
แต่มีไฟเปิดสว่างตลอด ถึงแม้จะบรรยากาศจะเงียบ แต่ก็ไม่เปลี่ยวนะครับ
ตู้รับจดหมายและประตูของบ้านหลังนี้อาจดูเก่าๆ แต่มันเข้ากับบรรยากาศกับเมืองเก่าภูเก็ตซะจริงๆ
โคมไฟรูปแบบจีน มีให้เห็นอยู่ตลอดเลยครับ ทำให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในหมู่บ้านชาวจีนเหมือนกันแฮะ
สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชม คือความสะอาดครับ ถนนเส้นนี้ที่ผมเดินมา เรียกได้ว่าสะอาดทั้งเส้น อันนี้ยกนิ้วให้เลย
พอสุดซอย ก็จะเจอสี่แยก ซึ่งมีความคึกคักขึ้นมานิดนึง มีร้านกาแฟ ให้พักเหนื่อยกันบ้างไรบ้าง
ว้าาาา กำลังเดินเพลินๆ สุดทางซะล่ะ
ตอนเดินมามันเพลินซะ พอขากลับเนี่ย ทำให้เพิ่งรู้ว่าผมเดินมาไกลเหมือนกันนะเนี่ย
อย่างที่ผมบอกครับ บนถนนเส้นนี้มีที่พักเยอะเลยทีเดียว แต่เป็นลักษณะของ Guest House หรือ Hostel
ซะเป็นส่วนใหญ่
บ้านหลังนี้ ทั้งประตู หน้าต่าง โคมไฟ เรียกว่า เป็นของเก่าอย่างแท้จริงเลยครับ
และตึกสีชมพูที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ก็ยังเป็นแหล่งถ่ายภาพ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบกันมากที่สุด ดึกแล้วก็ยังมีคนมาโพสต์ท่าแบบนี้อยู่นะ
ลืมบอกไปว่าถนนเมืองเก่านี้ เค้าไม่ใช้เสาไฟฟ้านะครับ ทำให้ตึกย่านนี้ ดูโล่ง สะอาดตา
ผมเดินเพลินจน 2 ทุ่มกว่าแล้ว คิดว่าคงได้เวลากลับแล้วล่ะ เจอกันอีกทีพรุ่งนี้นะครับ
————-
วันสุดท้ายของทริปภูเก็ต ผมก็ยังเจอกับฝนอีกเช่นเคย
วันนี้ไม่มีโปรแกรมที่ไหน เลยนำภาพของห้องพักอื่นๆ มาให้ชมกันครับ
ผมเห็นเค้ากำลังทำความสะอาดห้อง ผมเลยถือโอกาสไปขอถ่ายภาพซะเลย
ห้องนี้จะเน้นโทนสีแดง อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยครับ วิวแจ่มดีทีเดียว
มาตรฐานของห้องจะเหมือนกันหมดครับ ต่างกันแค่สี และตำแหน่งของห้องเท่านั้น
ผมเองจำชื่อห้องไม่ได้ เดี๋ยวถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะมาอัพเดทแก้ไขให้นะ
นั่งชมวิวริมระเบียงซักกะหน่อย ทำเนียนเหมือนพักห้องนี้เลยเรา แหะๆ
เงียบดีไหมครับ ผมบอกแล้วเหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ สำหรับ Luckna House
ไปดูอีกห้องนึงครับ ซึ่งอยู่ติดกับห้องพักของผม
ห้องนี้สีออกไปโทนสีเลือดหมู ห้องจะอยู่เยื้องๆ จากสระว่ายน้ำมานิดนึง
ในบรรดาห้องทั้งหมดที่ผมได้เข้าไปชม ผมชอบห้องนี้มากที่สุดเลยครับ
เพราะถ้าเราออกไปนั่งที่ระเบียงซ้ายมือจะติดสระว่ายน้ำ ขวามือจะติดกับต้นไม้เขียวๆ ผมว่ามันลงตัวดีนะ
อากาศดี บรรยากาศดี จัดซักกระป๋องดีไหมเนี่ย ผมหมายถึง น้ำอัดลมนะ อย่าเข้าใจผิด อิอิ
ห้องน้ำกว้างและสะอาด เป็นแบบนี้เหมือนกันทุกห้องครับ
ฝนมันตกตั้งแต่วันมา ยันวันกลับเลยครับ นี่ก็ตกตั้งแต่เช้าไม่หยุดสักที หิวข้าวแล้วนะ (นี่ก็กินตลอด)
ฝนหยุดอีกที ก็เที่ยงครับ เราไปหาไรกินที่ร้านอาหารพื้นบ้าน “หมอมูดง” ดีกว่า
รายการอาหารแนะนำนั้นมีหลายอย่างครับ ซึ่งทางร้านจะแปะไว้ทุกซุ้ม
อาหารพื้นบ้านรสจัดแบบนี้ มีเหรอผมจะพลาด เมนูแรกที่ผมลองคือ “หอยขมผัดชะพลู” เผ็ดร้อน แบบน้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียว
อีกเมนู ชื่อว่า “มะเขือยาวทอดเครือง” เมนูนี้ผสมผสานระหว่างผักกับพริกแกงได้ลงตัว แหล่มมาก
เมนูสุดท้ายของมื้อนี้ “ปลายัดใส้” จะเป็นปลาทูที่เอาก้างออกหมดแล้ว ยัดใส้ด้วยห่อหมก เมนูนี้สุดยอดมากครับ
ผมเดินทางกลับโดยรถทัวร์เช่นเดิม โดยขึ้นรถที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ทริปนี้อิ่มทั้งนอน อิ่มทั้งท้อง ถือว่าเป็นทริปเซอรเวย์ที่ดีมากๆ ครับ
ผมได้รู้อะไรเกี่ยวกับภูเก็ตเยอะเลย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายของเกาะภูเก็ตทีผมยังไม่ได้ไปสัมผัส และนั่นมันก็เป็นเหตุผลเพียงพอ
ที่จะทำให้ผมต้องไปเยือนภูเก็ตอีกครั้ง…แน่นอน
การเดินทางไปภูเก็ต เกาะภูเก็ตเป็นเมืองใหญ่ การเดินนั้นสะดวกและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทางเครืองบิน รถทัวร์ หรือนั่งเรือมาจากเกาะ หรือจังหวัดใกล้เคียง
การเดินทางจาก สนามบินภูเก็ต ไปยังรีสอร์ท หรือตัวเมืองนั้นมีรถรับส่งค่อนข้างจะเยอะให้เลือกใช้ ผมเองยังไม่เคยนั่งเครื่องลงที่สนามบินภูเก็ต อันนี้เลยไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ผมเลือกใช้การเดินทางโดยรถทัวร์ VIP กรุงเทพ ภูเก็ต ราคา 900 กว่าบาท อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่ก็เป็นการเดินทาง อีกทางเลือกนึงสำหรับคนงบน้อยอย่างผม แต่ผมแนะนำให้นั่งรถ VIP นะครับ
การเดินทางนั้นค่อนข้างไกล นั่งรถไกลทั้งที นั่งรถดีๆ ที่สบายๆ ไปเลยดีกว่าครับ
รีสอร์ท ที่พัก ภูเก็ต หลายคนคงรู้ว่าที่พักภูเก็ตราคาถูก นั้นหายากมาก ก็แน่ล่ะ เมืองท่องเที่ยวแบบนี้ ใช่ว่าทางรีสอร์ท ที่พัก เค้าจะโก่งราคานะครับ แต่ค่าครองชีพ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารมันแพงจริงๆ ราคาก็เลยไหลตามต้นทุน ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนผมเลือกพักที่ Luckna House Resort เพราะ เป็น Pool Villa ที่มีแค่ 6 ห้อง ทำให้มีความเงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัว ค่อนข้างสูงครับ เรื่องราคานั้นก็ตกที่ 3000 พันกว่าบาท เทียบกับคุณภาพห้องพัก และบริการแล้ว ถือว่าสมเหตุสมผล สำหรับเมืองใหญ่อย่างเกาะภูเก็ต
ร้านอาหารแนะนำ ภูเก็ต อันนี้ผมอยากแนะนำอย่างแรง คือร้านอาหารพื้นบ้าน “หมอมูดง” ผมเชื่อว่าหลายๆ คนไปเที่ยวทะเล ก็อยากจะลิ้มลองอาหารทะเลให้เข้าบรรยากาศ แต่เมือท่านสมใจกับอาหารทะเลแล้ว ผมอยากให้ลองชิมอาหารพื้นบ้านของภูเก็ตดูบ้างครับ อาหารปักษ์ใต้แท้ๆ ที่มีเมนูหลากหลาย แม้แต่หนุ่มใต้อย่างผมยังประทับใจ จริงอยู่รสชาดอาจจะแรงไปนิด แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์การชิม ที่น่าจะต้องลองสักครั้ง
สถานที่ท่องเที่ยว ภูเก็ต ทริปภูเก็ตคราวนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้เที่ยวนัก แต่ถือว่าเป็นทริปพักผ่อนที่ดีอีกทริปนึง สำหรับผมแล้วภูเก็ตนั้นยากมากที่จะเที่ยวให้ทั่ว เพราะกว้างซะเหลือเกิน อีกทั้งการเที่ยวภูเก็ตนอกจากจะเที่ยวแนวธรรมชาติแล้ว การท่องเที่ยวกลางคืน ก็เป็นอีกแนวนึงที่พลาดไม่ได้ ส่วนใครที่ชอบแนวโชว์ ก็ไม่ควรพลาด ภูเก็ตแฟนตาซี สำหรับผมการเที่ยวกลางคืนนั้น ไม่ค่อยถนัดนัก พอตกค่ำเลยนอนพักผ่อนซะมากกว่า
ที่เที่ยวภูเก็ตนั้นยังมีอีกหลายที่ การท่องเที่ยวเชิงทะเล ก็มีทั้งหาดกะตะ หาดกะรน แหลมพรมเทพ สะพานสารสิน หาดในหาน หาดยะนุ้ย หาดแหลมกา อ่าวฉลอง เกาะราชาใหญ่ เกาะไม้ท่อน เกาะเฮ หาดราไวย์ หาดป่าตอง หาดในทอน จุดชมวิวสามอ่าว ก็ละไว้ก่อนครับ เยอะมากจริงๆ
วัดดังๆ เช่น วัดฉลอง วัดพระใหญ่ วัดพระนางสร้าง วัดพระทอง ศาลเจ้าปุดจ้อ และสถานที่อื่นๆ อีกเยอะแยะเลย
ถ้ามีโอกาสจะนำมารีวิวกันทริปหน้านะครับ
ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พัก Luckna House Resort
โทรศัพท์ : 076 319 290
Fanpage : Luckna House
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง …..นายหัว
อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus OMD EM5 , Nikon D3
เลนส์ : Panasonic 14mm/F2.5 ,zuiko 12-50/f3.5-6.3, Nikor 14-24N