เที่ยวเกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน
31 ธันวา ผมเดินทางโดยรถ vip 24 ที่นั่ง กรุงเทพ-เกาะพะงัน ถึงท่าเรือไปเกาะพะงัน เวลา 07.00 ของวันที่ 1 มกรา ถือได้ว่าเดินทางข้ามปีกันเลยทีเดียว
หนึ่งชั่วโมงกับการรอคอยผมก็ได้แต่เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย
แสงแรกของปีใหม่ ส่องแสงสะท้อนผิวน้ำยามเช้า ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้เดินทางไกลมาจาก กทม
และแน่นอนไม่ว่าวันไหนๆ เจ้าบ้านก็ให้การต้อนรับอย่างดีเช่นเคย
08.00 เรือเริ่มออกจากท่า มาคนเดียวอย่างผม ก็ต้องหามุมสงบ ๆ เพื่อเอนกายพักผ่อน
หลังจากเหนื่อยมาจากการ count down บนรถ(เหนื่อยตรงไหน)
เผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาที แหงนมองท้องฟ้าวันนี้ ช่างสดใสซะจริง ๆ
ถึงเกาะพะงันสาย ๆ เร่งรีบโทรศัพท์หาพี่ที่รู้จักให้มารับ เพื่อพาไปรีสอร์ทของพี่เค้า
หาดยาวโอเวอร์เบย์รีสอร์ท คือที่ที่ผมพักคืนนี้ http://www.haadyaooverbayresort.com
ห้องพักนั้นอยู่บนเนินเขา ด้านหน้าสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของเกาะพะงันได้ถนัดตา
(สังเกตุได้ที่หน้าต่าง)
ห้องพักสะอาดสะอ้าน ดูเรียบง่าย ด้านหลังติดภูเขาที่เขียวขจี มองไปแล้วช่างสบายตาเสียจริง ๆ
ห้องน้ำในตัวที่สะอาด และพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ครบครัน
เตียงและหมอนนุ่ม พร้อมเสมอ สำหรับการพักผ่อนของแขกผู้มาเยือน
เตียงนอนกว้างขวางนอนสองคนได้กำลังดี
ตู้เย็น ทีวี เป็นเครื่องใช้ที่มีทุกห้องสำหรับรีสอร์ทนี้
สำหรับอากาศคุณสามารถเลือกแอร์ หรือ พัดลม ก็ได้ตามสไตล์ของคุณ
ผมขับมอไซค์ออกตะเวนเที่ยวรอบ ๆ เกาะ แต่ฟ้าคงกลัวผมจะร้อนเลยส่งสายฝนมา
เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ผมซะนี่
แม้ท้องฟ้าจะครึ้ม และสายฝนจะโปรยปราย แต่ผมก็ยังตระเวนขับชมเกาะจนเกือบทั่ว
(เหลือหาดท้องนายปานที่ไม่ได้ไป) กลับเข้ารีสอร์ท และออกมาทานข้าวอีกทีตอนค่ำ ๆ
ช่วงวันหยุดอย่างนี้นักท่องเที่ยวเยอะเสียจริงๆ จะสั่งอาหารก็ต้องรอนานหน่อย
เอาล่ะผมนั่งรออาหารที่บาร์นี่ล่ะกัน
ระหว่างรออาหารก็หันซ้ายหันขวา ชมโน่นชมนี่ไปเรื่อยล่ะครับ
อืม หลบออกมานั่งเงียบ ข้างนอกดีกว่าเนาะ
ผมทานอาหารเสร็จ แล้วก็นั่งเอาบรรยากาศสักพัก นักท่องเที่ยวเอง ก็เริ่มทะยอยกลับห้องพักกันแล้วล่ะ
ถึงทีของเราได้นั่งเอนกายสบายๆ บ้างแล้วล่ะ อิอิ
โซนต้อนรับของรีสอร์ทนี้ ส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ ให้ความรู้สึกที่เย็น นั่งสบายเลยล่ะ
การตกแต่งเน้นความเรียบง่าย สะอาด แต่ก็สวยงามเช่นเดียวกัน
สภาพโล่ง ๆ แบบนี้มีให้เห็นเฉพาะตอนดึก ๆ ที่นักท่องเที่ยวทะยอยกลับห้องพักแล้วเท่านั้น
เช้าวันใหม่ ผมจองเรือไปเกาะเต่าได้รอบบ่ายสอง ดังนั้นเลยขับมอไซค์เที่ยวอีกรอบเพื่อฆ่าเวลา
มีหาดไหนที่พอจะแวะได้ ผมก็จะแวะเข้าไปเก็บภาพบ้าง
blue sea resort ที่นี่สวยมาก ๆ ผมได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพแค่บริเวณนี้เท่านั้น
แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่บริเวณอู่ต่อเรือของชาวเกาะพะงัน
บ่ายสามกว่า ผมขึ้นเรือจากเกาะพะงันสู่เกาะเต่า นักท่องเที่ยวเยอะเหลือเกิน คนแน่นจนในเรือไม่มีที่ให้ยืน
(นึกถึงรถเมล์กรุงเทพตอนเย็น ๆหลังเลิกงานน่ะ) ผมได้นั่งบนถังขยะ ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ทีพักบนเกาะเต่าของผมคือ Coral view Resort http://www.coralview.net
ทางเข้ารีสอร์ทนั้น ถือได้ว่าลำบากมาก แต่พอถึงที่พัก คุณจะลืมความลำบากนั้นโดยสิ้นเชิง
Coral view Resort คิดค่าบริการห้องพักแค่ 700 บาท/คืน เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบมากกกกกกก
อยู่ติดกับเกาะฉลาม ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำกัน และนี่คือห้องพักของผม
ผมมาถึงที่นี่เย็นแล้ว เลยไม่ได้ไปไหนมากนัก ตกค่ำ ก็ไปนั่งคุยกับพี่เจ้าของรีสอร์ทที่บาร์ริมทะเล
พี่เค้าใจดีเลี้ยงเบียร์ผมไปหลายขวดเหมือนกัน
หนำซ้ำยังพาไปทานอาหารทะเลที่ร้าน “ลูกพี่ซีฟู้ด” อีก ร้านนี้ผมขอแนำนำนะครับ
ถ้าไปเกาะเต่าอย่าลืมแวะเชียวล่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าซีฟู้ดที่เหนือซีฟู้ดเป็นอย่างไร
ตอนเช้าวันใหม่ โปรแกรมของผมต่อจากนี้คือ เกาะนางยวน แต่….
ตอนตื่นเช้าผมกลับปวดกล้ามเนื้อที่หน้าขาอย่างแรง ถึงขนาดเดินไม่ได้เลยครับ
ผมพยายามนวด และกัดฟัน(ทั้งน้ำตา)เดินไปที่เคาร์เตอร์รีสอร์ท เพื่อขอยาทากล้ามเนื้อ
แต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพสวย ๆ ตอนเช้ามาฝากกัน ภาพนี้ถ่ายจากมุมสูง เกาะที่เห็นคือเกาะฉลาม
อืม..คิดว่าไม่เป็นไรมาก กัดฟันเดินต่อไปที่ชายหาด และก็ไม่ลืมที่จะกัดฟันกดชัตเตอร์ภาพนี้มา
ไม่ไหวจริง ๆ ครับ กัดฟันเดินกลับห้องพัก แต่ด้วยขาที่เจ็บผมดันลื่นตรงบันไดขั้นสุดท้ายก่อนถึงห้องพัก
โชคดีที่ล้มลงบนพื้นไม้หน้าห้อง และกล้องก็ไม่เป็นอะไร (ห่วงกล้องมากกว่าตัวเอง) เกือบเที่ยงรู้สึกดีขึ้น
พยายามเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ชายหาด
ท่านสามารถผ่อนคลายด้วยนวดแผนไทยริมหาดนี้ได้นะครับ ราคานั้นไม่ได้แพงอย่างที่คิด
ได้คุยกับคุณลุงท่านนึงซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นยืนตกปลาอยู่ ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านไปมาเกาะนี้กับญี่ปุ่น
ตั้งแต่หนุ่ม ๆ แล้ว
คุยกันถูกคอ ท่านแนะนำที่เที่ยวอีกหลายๆ ที่ และก็ชวนไปหาอะไรดื่มที่บาร์
หลังจากนั้นผมขอตัวเดินไปริมหาด ท่านก็ไปตกปลาต่อ
นักท่องเที่ยวเริ่มทะยอยออกมาอาบแดดกัน ที่นี่พี่เจ้าของรีสอร์ทเล่าให้ฟังว่า ฝรั่งชอบมาก ๆ
เพราะเงียบสงบ สามารถอาบแแดดได้โดยไม่มีคน เดินไปมาให้กวนใจ
พี่เค้าเล่าให้ฟังว่านาน ๆ จะมีคนไทยมาพักที แต่สำหรับฝรั่งนั้นมีจองพักเป็นเดือนกันเลยก็มีครับ
บรรยากาศริมหาดร่มรื่น ท่ามกลางน้ำทะเลที่ใสปิ๊ง ไม่มีขยะจากน้ำมือมนุษย์ให้เห็นแม้แต่ชิ้นเดียว
หรือหากท่านต้องการความท้าทายก็สามารถ เช่าเรือออกไปพาย เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตัวเองได้
นี่แหละครับ คือบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง
กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่งกลับมาจากดำน้ำ ซึ่งเป็นบริการอย่างหนึ่งของรีสอร์ท
เอาน่ะ ไปทะเลทั้งทีเพื่อไม่ให้ขาดสีสัน ถ่ายมาภาพนึงครับ ไม่ได้แอบถ่ายนะครับ
เพราะตอนถ่ายผมนั่งอยู่กับพี่เจ้าของรีสอร์ทที่บาร์
ทีแรกผมตัดสินใจจะลางานอีกวัน แล้วอยู่ต่อ กะว่าเช้ามาจะไปเกาะนางยวน แต่เป็นห่วงงานที่บริษัทเลยตัดสินใจกลับ
เกาะฉลามมองจากมุมที่ check out
ผมได้ตั๋วรถ+เรือ เกาะเต่า-ชุมพร-กรุงเทพ ตอนสี่โมงเย็น
เลยมานั่งเล่น ๆ ริมหาด มองไปไกล ๆ นั้นคือเกาะนางยวน ใกล้ ๆ แค่นี้ แต่ผมดันไปไม่ได้ ..ฝากไว้ก่อนเถอะ เกาะนางยวน
เรือกว่าจะออกก็เกือบห้าโมงเย็น และนี่คือแสงสุดท้ายของทริปนี้……ลาก่อนนะเกาะเต่า
ทริปนี้จริง ๆ แล้วเป้าหมายผมคือเกาะนางยวน ด้วยความบ้าระห่ำ(เดิน)มากไปหน่อย
เลยทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าขา เลยอดไป..
ปวดกายแต่ไม่ปวดใจครับ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับความสุขที่ได้จากทริปนี้
ขอบคุณที่ติดตามกันเช่นเคย..นายหัว