วันลอยกระทง ผมเชื่อว่าหลายคน คงนึกถึงจังหวัดสุโขทัย จังหวัดนี้เค้าเด่นดังเรื่องการจัดงานประเพณีลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ตัวผมเองก็หวังไว้นานแล้วว่าคงจะได้มีโอกาสไปเที่ยวงานลอยกระทงที่สุโขทัยกับเค้ามั่ง มาคราวนี้มีโอกาสผมไม่รอช้า ขับรถไปยังสุโขทัยโดยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง งานลอยกระทงสุโขทัยนั้นจัดที่อุทยานประวัติศาสต์ ดังนั้นผมจึงเลือกพักโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุด
แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่เป็นอย่างที่คิดครับ เพราะโรงแรมที่ใกล้อุทยานประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่โดนจองไปล่วงหน้าหมดแล้ว หมดสิทธิ์สำหรับขาจรเยี่ยงผม ผมเลยเลือกพักโรงแรมในใจกลางเมืองสุโขทัยแทน เนื่องจากมันไม่ได้ไกลกับอุทยานประวัติศาตร์เลย อีกทั้งยังอยู่ใกล้ตลาดโต้รุ่ง หาของกินได้สบายทั้งคืนเลยล่ะ
ผมออกเดินทางจาก กทม บ่ายๆ ไปถึงสุโขทัยก็ค่ำพอดี และที่พักของผมคืนนี้คือ
นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล
ขับรถมาหลายชั่วโมง ก่อนหาไรกิน ผมถ่ายห้องพักของผมมาให้ชมกันก่อน
ด้วยแสงไฟ และมุมจากในห้องน้ำ ทำให้ผมชวนคิดไปไกล ว่าถ้าใครมาด้วยสักคนก็ดีสินะ …นั่น!!!
อ๊ะๆ แต่อย่างคิดว่าห้องน้ำเค้าจะ Open ตลอดนะ เค้าก้อมีบานหน้าต่างคอยเซฟนะครับ แต่สำหรับผมเปิดโล่งแบบนี้แหละ มิต้องอายใคร
ถ้ามองจากข้างนอกโรงแรม เราจะเห็นเหมือนว่าโรงแรมนี้เล็ก ห้องคงแคบๆ แต่ต้องยอมรับครับว่า เค้าจัดสรรขนาดห้องได้พอดี และลงตัว
ที่สำคัญห้องพักทุกห้องที่นี่ มีระเบียง สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ทุกห้อง ไม่มีห้องไหนเป็นห้องมุมอับแน่นอน
เอาล่ะ ยลกันไปพอหอมปากหอมคอ ที่นี้ก็แค่เดินข้ามถนนไปเพียง 5 ก้าว เราก็จะเจอกับตลาดโต้รุ่ง กินสิครับท่านผู้ชม จะรอช้าอยู่ไย
“อรอนงค์ ผัดไทยสุโขทัย” เป็นแค่เพียงร้านรถเข็นข้างทาง แต่ผมยืนยัน เป็นผัดไทยที่อร่อยมากครับ และที่สำคัญอาจต้องยืนรอนะ เพราะไม่มีที่นั่งว่าง
ผมอาจจะไม่มีรายละเอียดมากนัก เพราะช่วงจังหวะนั้นผมโดนครอบงำด้วยความโหยหิว เอาเป็นว่ามันอยู่ตรงข้ามกับ โรงแรม นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทลนั่นแหะ หรือจะสอบถามพนักงานก็ได้ครับ
……….
รุ่งเช้าวันใหม่ ผมมีโปรแกรมไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เพราะอยู่ไกลที่สุดในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดที่ผมคิดว่าจะไป ดังนั้นต้องเติมพลังกันก่อนด้วย Sukhothai Breakfast
อะฮ้าา อย่าคิดว่ามันแค่ข้าวเหนียวหมูทอดธรรมดาครับ มันมีความพิเศษที่รสชาด และความนิ่มของข้าวเหนียว มื้อนี้ทาง นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล เค้าจัดให้
ชั้นล่างของ นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล นอกจะเป็นเคาเตอร์เช็คอินแล้ว ยังเป็นร้านกาแฟน่ารักๆ ชื่อว่า หงษ์รามา ทีรูม ซึ่งมาจากชื่อเดิมของตึก ซึ่งเคยเป็นโรงหนังมาก่อน
ในตัวร้านจะมีกล้วยไม้สดๆ ให้เราได้ชมกันทุกวัน เนื่องจากเจ้าของที่นี่เค้าทำฟาร์มกล้วยไม้ด้วยครับ เดี๋ยวผมจะมีภาพของสวนมาให้ชมกันท้ายๆ รีวิว
ภายในหงษ์รามา ทีรูมมีมุมให้เลือกนั่งหลายมุม มุมนี้ลงตัวด้วยภาพเก่าของเมืองสุโขทัย กับกำแพงอิฐ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตาสำหรับจังหวัดสุโขทัย
ชาที่ใช้ที่นี่จะเป็นชาของเวียงจุมออน เชียงใหม่
บรรยากาศโล่งๆ กว้างๆหน้าเคาเตอร์เช็คอินทร์ และ หงษ์รามา ทีรูม
เอาล่ะครับหลังเติมพลังกันเรียบร้อย ผมก็ออกเดินทางไปยัง อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีครับ ผมก็มาถึงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุโขทัย ที่ห้ามพลาดกันนะ
ผมมองว่าถ้าให้ได้อารมณ์การท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์จริงๆ ล่ะก็ จักรยานนี่แหละครับดีที่สุด ลมเย็นๆ ร่มไม้เยอะ ปั่นสบายครับ
แมกไม้สองข้างทาง ของที่นี่จะช่วยให้เราคลายร้อนได้เยอะ และจุดท่องเที่ยวแต่ละจุดก็ไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาไม่นานก็น่าจะเที่ยวทั่วแล้วล่ะ
ปั่นไปเจอทางแยก ผมเลี้ยวไปทางขวาเพื่อไปวัดเขาพนมเพลิง วัดนี้อยู่ที่สูงอาจต้องออกแรงขึ้นบันไดกันหน่อย
วัดต่อไปเป็นวัดช้างล้อม วัดนี้ถือว่าสถาปัตยกรรมยังอยู่ให้เห็นค่อนข้างสมบูรณ์นะ
ผมชอบเป็นพิเศษ
อีกอย่างนึง ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่เค้าดูแลอุทยานนี้ดีมากครับ ต่างกับเมืองเก่าอยุธยา เยอะเลยล่ะ
อาจเป็นเพราะสุโขทัยไม่ได้โดนเผา เหมือนอยุธยา สถาปัตฯทุกอย่างยังอยู่ถึงวันนี้ได้
เอาล่ะครับ วันนี้แดดร้อนใช้ได้เลย เดี๋ยวเราละ จากวัดช้างล้อม ปั่นไปชมวัดต่อไปกันเลย
วัดเจดีย์เจ็ดแถว ถือว่าเป็นวัดที่กว้างที่สุดในอุทยานศรีสัชฯเลยกว่าได้
วัดนางพญา วัดนี้ถัดมาจากวัดเจดีย์เจ็ดแถวหน่อย มีลายปูนปั้นที่สำคัญ ที่ทำให้ช่างสลักทองนำไปใช้ จนทำให้มีชื่อเสียง ในนาม “ทองโบราณศรีสัชนาลัย”
เมื่อเข้าไปดูไกล้ๆ จะเห็นเลยครับ ว่าลวดลายงดงาม อ่อนช้อยแบบฉบับสุโขทัยจริงๆ
วัดต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยนั้น มีเยอะมากครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายมาให้ดูทั้งหมด แบบว่าปั่นจักรยานเพลินไปหน่อยน่ะ แหะๆ
หลังจากนั้นเราย้อนกลับเข้าเมืองอีกครั้ง เพื่อกินมื้อเที่ยงกัน
ร้านที่ผมเลือกคือ “ร้านไม้กลางกรุง” เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แต่มีเมนูมากกว่าก๋วยเตี๋ยวนะ
แผนที่ร้านไม้กลางกรุง
เมนูแรกที่อยากแนะนำคือ “ผัดซีอิ๊ว” อาจดูธรรมดาครับ แต่หมูที่เค้าใช้นิ่มอร่อยมาก
และแน่นอนสุโขทัยเป็นเมืองผัดไทย ผัดไทยที่นี่เค้าก็อร่อย ผมไม่ลืมที่จะสั่งมาลอง
ตบท้ายด้วยเกรียบปากหม้อกะทิ เป็นของหวานชั้นดีสำหรับล้างปากนะครับ รับประกันว่าอร่อยจริง
ที่ขาดไม่ได้คือ น้ำมะพร้าวสดครับ ไม่ผสมน้ำตาลสดจริงๆ และก็ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย รวมไปถึงสุกี้แห้งด้วยครับ แต่มันหิวจัด ผมไม่มีเวลาถ่ายมาให้ชมจริงๆ
หลังอิ่มหนำกันแล้ว เราแวะที่พัก เพื่อพักเอาแรงกันก่อน ผมเลยมีโอกาสได้ภาพห้องพักห้องที่2 มาฝากครับ
อย่างที่ผมบอกครับว่าทุกห้องที่นี่ มีระเบียงเห็นวิวนอกโรงแรมทุกห้อง
ถึงแม้จะเป็นวิวเมือง แต่ผมชอบนะ เพราะรถ และผู้คนในตัวเมืองนั้นน้อยมากครับ จนผมมีคำถามว่า นี่อำเภอเมืองเหรอ?
สีเขียวอ่อนของผ่านม่าน บวกกับสีอื่นๆ ที่ออกแนวซอร์ฟสายตา ชวนให้น่าพักผ่อน
แต่ห้องพักถ้าไม่มีลวดลายมั่ง มันก็จะดูจืดชืดเกินไป ที่นี่เค้าเลยจัดผ้าห่ม
เป็นลายผ้าขาวม้าซะเลย
อีกมุมนึงกับบรรยากาศแบบโปร่งๆ ของห้องเบอร์2
เข้าไปดูห้องน้ำกันมั่ง ที่นี่เค้าเน้นพื้นที่ใช้สอยในห้องน้ำกว้างเป็นพิเศษ
ห้องอาบน้ำ ถูกจัดแยกออกไป โดยมีเพียงกระจกใสๆ กันแค่นั้น ดูไม่รกตาดีครับ
ดีกว่าใช้ผ้ายางกั้น
ถามว่าทำไมเวลารีวิวที่พัก ผมถึงต้องมีถ่ายห้องน้ำตลอด เพราะห้องน้ำมันเป็นเกณฑ์ตัดสินใจของหลายๆ คนในการเลือกห้องพักครับ
ห้องพักดีแค่ไหน ถ้าห้องน้ำไม่สะอาด ผมเชื่อว่าหลายคนเค้าไม่เลือกนะ
เอาล่ะ ผมก็ไปนอนพักเอาแรงแป๊บ เดี๋ยวตอนเย็นเราไปดูการซ้อมงานลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟกัน ที่อุทยานประวัติศาสตร์กัน
ผมตื่นเย็นไปหน่อยครับ ว่าจะไปชิมเมนูที่ร้านอาหารสุโข ซึ่งอยู่ติดกับสวนเกษตรอินทรีย์ ภายในสนามบิน ต้องไปกลางวันนะครับ อย่าไปเย็นๆ เพราะจะแห้วแบบผม
ผมตีรถกลับเข้าเมืองกันอีกที ทริปนี้ขับรถไปมากันสนุกเลย 55 เพื่อไปยังอุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย งานเค้าเริ่มแล้ว
วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ของงาน ลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ นะครับ
งานจะเริ่มจริง วันที่ 2-11-2014
ขอบอกว่าคนเยอะมากครับ รถก็ไม่มีที่จอดใครจะเดินทางไปเที่ยวในปีต่อๆ ไป ก็ควรไปแต่บ่ายๆ นะ แนะนำว่าให้ทางที่พักขับรถไปส่งดีกว่าครับ
งานนี้ก็ใช้แสงเยอะ ผลก็คือทำให้ไฟตกครับ มืดกันทั้งอุทยาน ใช้เวลานานมากไฟก็ยังไม่มา รอไม่ไหวจริงๆ ครับ งานนี้สำหรับผมถือว่าแห้วนิดๆ นะ
เพราะมาสุโขทัยคราวนี้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
แต่ผมไม่ค่อยสนใจครับ รสชาดการท่องเทียวมันก็เป็นแบบนี้แหละ ผิดหวังมั่งสมหวังมั่ง เปลี่ยนอารมณ์ไปเดินเที่ยวถนนคนเดินสุโขทัยดีกว่า
คำถามคือ ถนนคนเดินสุโขทัย (วันเสาร์) มันอยู่ตรงไหน..ตอบคือ อยู่ตรงตลาดโตรุ่งใจกลางเมืองสุโขทัยนั่นแหละครับ ถ้าเราพักที่ นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล มองเห็นได้จากระเบียงเลย และเดินไปแค่ซอยเดียวครับ
ผมแนะนำให้ไปหาของกินนะครับ ของฝากของใช้ต่างๆ อาจจะไม่หลายหลายมากนะ แต่ของกิน..เพียบ
ของฝากก็พอมีนะ แต่จะเป็นของฝากที่เป็นของกิน ซึ่งเป็นอาหารแบบต้นฉบับของสุโขทัย
เรียกได้ว่าทั้งเป็นคืนวันเสาร์ล่ะก็อย่างเพิ่งไปทานอะไรที่ไหนซะก่อน แค่มาเดินถนนคนเดินรับรองอิ่มแปล้
ยำแซ่บข้าวแคบนี่ผมลองแล้ว แกล้มเบียร์ได้ดีเลยนะ ขอบอก
อันนี้ซาลาเปารูปน้องหมา ใช่แค่น่ารักครับ ของอร่อยด้วยนะ ผมลองแล้ว
แต่ผมชอบท่านั่งขายขนมครกของย่านท่านนี้มาก ดูท่าแกเอาจริงเอาจังนะ
คืนนี้ก่อนนอนผมเอาภาพห้องเบอร์ 1 มาฝากกันก่อน
ห้องนี้เค้าจะเน้นสีสันขึ้นมาหน่อย อยู่ชั้นแรก ไม่ต้องกลัวเรื่องเสียงรถรบกวนนะ เพราะกลางคืนแทบไม่มีรถวิ่งเลยครับ ผมชอบมาก
ห้อง 1 เป็นห้องกว้างครับ รวมเตียงเสริมแล้วนอนได้ 5 คนสบายๆ นะ
ห้องน้ำกันด้วยหน้าต่างไม้ แหม…นอนแช่น้ำอุ่นไป ดูทีวีไป สบายเลยล่ะ
เอาล่ะงั้นผมขอตัวลงอ่าง เอ๊ย กลับไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปเที่ยววัดศรีชุมกันครับ
วันนี้ตื่นเช้ามาทาง นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล เค้ามีมื้อเช้าให้ เติมพลังกันก่อนออกเดินทางไปวัดศรีชุม
วัดศรีชุมจะอยู่เลย อุทยานประวัติศาสตร์ ไปหน่อยนะครับ ใครจะไปถ่ายภาพต้องรีบไปแต่เช้า เพราะคนไม่เยอะ วัดจะเปิดให้เข้าชมในมณฑปเวลา 07.30น.
จุดเด่นของวัดนี้คือภายในมณฑปจะมี พระอจนะ เป็นพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีเสน่ห์และความสวยงามเฉพาะตัว
ตั้งแต่ผมเที่ยวมา ผมบอกได้เลยว่าถึงแม้องค์ไม่เป็นสีทอง แต่พระอจนะเป็นพระที่สวยงามที่สุด เท่าที่เคยเจอเลย
รอบๆ มณฑปนอกจากจะมีต้นมะม่วงยักษ์ร้อยปีแล้ว ยังมีพระพุทธรูปองค์นี้ด้วยครับ อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ว่านามอะไร
ต่อไปเราเดินทางไปชมวิวเมืองสุโขทัยกัน ซึ่งนั่นก็คือวัดสะพานหิน ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่อยู่สูงที่สุด และ…เหนื่อยที่สุด อิอิ
สะพานหินทางขึ้นคงเป็นที่มาของชื่อวัดน่ะครับ ดีว่าเรามากันตอนเช้า ยังมีแรงอยู่ แต่ไม่ได้สูงไรมากหรอก มาถึงที่แล้วก็ต้องขึ้นเนาะ
ถึงปุ๊บฝนตกปั๊บเหมือนหลวงพ่อให้พรเลย แต่วันนี้วิวมันหม่นๆ ไปนิดนะหลวงพ่อ
เอาล่ะ ถึงแม้ยังเช้าอยู่แต่เราจะกลับไปที่พักก่อนครับ เพื่อเตรียมตัวไปชมสวนกล้วยไม้กัน กราบลาหลวงพ่อเลยล่ะกัน
กลับมาถึงที่พักแล้ว ก็สั่ง Honey Toast กินแก้ร้อนหน่อย อิอิ ที่นี่เค้ามีเมนูพิเศษอะไรแบบนี้เยอะนะ ต้องลองดูกันเอง
เราขึ้นไปเก็บภาพห้องพักห้องที่3 กันหน่อยดีกว่า
ห้องนี้วิวดีมากๆ ครับ พอดีวันนี้ห้องเค้าว่าง เลยมีโอกาสถ่ายมาให้ชมกัน
โทนสีของห้องจะออกไปแนวสีม่วง ห้องนี้ได้ถ่ายตอนบ่าย
เลยไม่แน่ใจว่ากลางคืนสีจะสวยแบบไหน
กลมๆ ที่เห็นไม่แน่ใจเค้าเรียกอะไรนะ แต่ผมคิดว่าเป็นโล่ห์กำบังทุกที 55
เอาล่ะครับ ทิ้งท้ายด้วยภาพห้องน้ำของห้องเบอร์3 แล้วเราไปดูสวนกล้วยไม้กันดีกว่า
สวนกล้วยไม้นี้ เจ้าของเดียวกับโรงแรม นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล ครับ เพาะเพื่อส่งออกอย่างเดียว แต่เค้ามีแผนจะเปิดเป็นที่ท่องเที่ยวในไม่ช้านี้
หากจะขับรถไปเที่ยว ขับไปทางเดียวกับสนามบินครับ แต่ถึงก่อน ถ้าให้ชัวร์สอบถามที่โรแงแรมก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้ป้ายบอกทางยังไม่มีครับ เพราะยังไม่เปิดเป็นทางการ
ทริปนี้ของผม ไฮไลท์อยู่ที่การซ้อม งานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟครับ แต่อย่างที่เห็นว่าไม่ค่อยได้ภาพเท่าไหร่นัก แต่ไม่เป็นไรครับ ได้กราบพระอจนะ ที่วัดศรีชุมก็คุ้มแล้ว เพราะเป็นสถานที่ที่ผมอยากไปมากที่สุด อันที่จริงก็ยอมรับว่าทริปนี้ออกแนวเรื่อยเปื่อยไปนิดนึง ผมเป็นคนขับรถเองจากกรุงเทพ และในตัวเมืองสุโขทัยทั้งหมด ยอมรับว่ามันล้าๆ เมื่อยๆ เลยถ่ายภาพน้อยไปนิด แต่หวังว่าพอจะเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวได้บ้างนะ
การเดินทางไปสุโขทัย
ขับรถไปเองผมว่าเป็นอะไรที่ไม่น่าหลงครับ เพราะใช้เส้นทางเดียวกับขึ้นเหนือนั่นแหละ แต่พอเลยนครสวรรค์ไปหน่อย จะมีป้ายบอกไปสุโขทัย ก็ขับตามป้ายได้เลย ใช้เวลเดินทางประมาณ
5-6 ชั่วโมง
สำหรับคนที่ต้องการนั่งเครื่อง ตัวเมืองสุโขทัยกับสนามบินห่างกันพอสมควรนะครับ อันนี้ต้องติดต่อรถมารับให้ดีๆ หรืออาจจะเปลี่ยนไปลงที่สนามบินพิษณุโลกก็ได้นะ เห็นน้องที่โรงแรมบอกว่าระยะทางพอๆ กัน
ส่วนใครพักใกล้สนามบินก็เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้ก่อนเลย เพราะใกล้กัน
สำหรับคนที่นั่งรถทัวร์อันนี้ผมไม่แน่ใจน่ะว่าซื้อตั๋วที่ไหน แต่สถานีขนส่งอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ ไม่ไกลกับ โรงแรม นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล
ที่พักสุโขทัย
จากที่สังเกตนะ คนจะพักใกล้อุทยานประวัติศาสตร์กันเยอะ และมีที่พักเยอะมากครับ แต่ช่วงเทศกาลลอยกระทงนี่ต้องจองกันแต่เนิ่นๆ นะ บอกไว้เลยว่าคนเยอะและรถติดมาก
แถวสนามบินก็มีที่พักครับ แต่อันนั้นผมคิดว่าควรเช่ารถไว้ด้วยนะ เพราะห่างกับตัวเมืองใช้ได้เลย ส่วนผมเลือกพักในตัวเมือง เพราะเน้นความสะดวกครับ แหล่งกิน แหล่งเที่ยว ผมว่าค่อนข้างสะดวกกว่าที่อื่น
สถานที่ท่องเที่ยวสุโขทัย
ทริปนี้บอกได้เลยว่าผมเที่ยวน้อยมาก เฉพาะในอุทยานประวัติศาสตร์ ผมยังเดินเที่ยวไม่ทั่วเลย สุโขทัยมีที่เที่ยวเยอะมากๆ นะครับ ถ้าไล่กันจริงๆ ผมว่า 3 วัน 2 คืนก็เที่ยวไม่หมดนะ
สำหรับที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จะมีวัดหลักๆ 9 วัด มั้งนะถ้าผมจำไม่ผิด
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดเขาพนมเพลิง วัดนางพญา วัดเขาสุวรรณคีรี วัดสวนแก้วอุทยานน้อย วัดช้างล้อม วัดชมชื่น วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่
แต่จะมี วัดพระศรีรัตนมหาธาติ ที่อยู่แยกโซนออกมา สวนเกษตรอินทรีย์ก็น่าสนใจครับ โดยเฉพาะร้านอาหารสุโข อันนี้ต้องไปลองให้ได้นะ
ร้านอาหารสุโขทัย
หากเป็นร้านกาแฟ ขนมหรือเบเกอรี่ ร้านหงษ์รามา ทีรูม ที่โรงแรมนคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล นี่น่าลองครับ บอกได้เลย ส่วนเรื่องกาแฟพอดีผมเป็นคนไม่กินกาแฟ อาจจะบอกด้วยตัวเองไม่ได้ว่าอร่อยป่าว แต่พี่ๆ ที่ไปด้วยเค้าบอกกาแฟอร่อยนะ
หากเป็นอาหารพื้นบ้านสุโขทัย ก็ต้องร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ไม้กลางกรุงครับ ครบครันทุกประเภท ร้านเดียวเรียกว่าจบ..
ส่วนร้านอาหารแนวชีวจิต ร้านนี้เพื่อนผมบอกหลายคนว่าอร่อย ต้องลอง แต่ผมดันพลาด หากใครไปก็ฝากลองด้วยล่ะกัน อิอิ
ข้อมูลที่ผมรีวิวอาจไม่ครบถ้วนกระบวนความนะครับ ท่านใดต้องการไปเที่ยวสุโขทัยด้วยตัวเอง ก็ควรศึกษาจะแหล่งอื่นเพิ่มเติมอีกทีนึงเพื่อให้ชัวร์ และเทียวอย่างสนุก
ติดต่อสอบถามห้องพักได้โดยตรงที่ FanPage นคร เดอ สุโขทัย ฮิพ โฮเทล
หรือโทร 055-611833
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง
…นายหัว