เกาะสมุย ซินนาม่อน บีช วิลล่า รีสอร์ท ที่พักเกาะสมุย
เกาะสมุย เป็นทริปเที่ยวทะเลใต้อีกทริปของผมที่ต้องบอกว่าประทับใจกับความงดงามของทะเลบ้านเรา ถึงแม้อาจจะมีฝนก็เถอะ ผมเดินทางรถทัวร์อีกแล้วครับท่าน ใช้บริการของ บขส กรุงเทพ-เกาะสมุย ราคาพันนิดๆ ซึ่งราคานี้รวมค่าเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะสมุยด้วยนะครับส่วนตั๋วเรือขากลับนั้น ให้เราซื้ออีกทีต้อนขึ้นรถครับ ก่อนจะถึงท่าเรือเฟอร์รี่ รถจะจอดเติมก๊าซที่ปั๊ม ปตท ก่อนนะครับ ซึ่งเราสามารถลงไปยืดเส้นยืดสาย และเข้าห้องน้ำได้ตามสะดวก
รถจะถึงท่าเรือเฟอร์รี่ประมาณ 6 โมงกว่าๆ หากเรือยังไม่เทียบท่า เราก็สามารถเดินเล่น
หรือหากาแฟดื่มกันก่อนได้นะ
ตอนเช้าที่นี่อากาศดีมากๆ ครับ เสียดายว่าเรือเทียบท่าเร็วไปหน่อย เลยได้นั่งสัมผัสอากาศดีๆ ได้แค่แป๊บเดียว
ผมค่อนข้างจะคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ เพราะตอนไปเกาะพะงัน ก็ใช้ท่าเรือนี้เช่นเดียวกันครับ
ซ้ายมือของเราจะเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ไปพะงัน ขวามือจะไปสมุย เอาล่ะ ลงเรือกันเลยดีกว่า
ใครนำรถยนต์มา ก็จอดไว้ด้านล่าง ส่วนที่นั่งผู้โดยสารจะอยู่ด้านบน มีทั้งติดแอร์และ open แอร์
เลือกได้ตามใจชอบ
ผมยังติดใจกับอากาศตอนเช้าที่นี่อยู่เลยครับ ออกหนาวนิดๆ แค่สัมผัสอากาศแบบนี้ ผมก็พอจะรู้แล้วว่า
ทริปนี้เจอฝนแน่ๆ เลย
ตะวันเพิ่งจะโผล่จากขอบฟ้าเองครับ เรือเทียบท่า 7 โมง แค่ 10 นาที ก็ออก ของเค้าตรงเวลานะเออ
สุราษฏร์ฯได้ชื่อว่าเมืองร้อยเกาะ ของเค้าสมชื่อจริงๆ ครับ แค่ขึ้นมาบนเรือ เราก็จะเห็นเกาะเล็กๆ รอบๆ เยอะมาก
นั่งรถมาประมาณ 10 ชั่วโมง พอเจอแดดมันแยงตา รู้สึกว่ามันง่วงเหมือนกันแฮะ
ไปชมด้านบนกันหน่อยดีกว่า ผมนั่งอยู่ด้านบนจนเรือออก เพราะอากาศดีมาก
พอเรือเริ่มเดินเครือง อีกลำก็มาเทียบท่าต่อทันที เวลาเค้าเป๊ะมากจริงๆ
เอาล่ะครับ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง กับการเดินทางโดยประมาณ ตอนนี้ก็ต้องของีบเอาแรงก่อนนะ
เราถึงเกาะสมุยแล้วล่ะ โดยเรือจะจอดที่ท่าราชา
แต่รถทัวร์จะไปจอดที่ท่านาทอนนะครับ ใครจะลงที่นี่ก็ได้ หรือจะนั่งรถไปลงที่ท่าเรือนาทอนก็แล้วแต่
เมื่อเรือจอดก็ต้องเดินมารอรถด้านหน้านะครับ จำรถกันให้ได้ด้วยล่ะ
ผมพักที่หาดละไม ดังนั้นต้องนั่งรถต่อจาก ท่านาทอนไปหาดละไม ระยะทางไกลใช้ได้นะครับ หากไปหลายคน เหมาแท็กซี่ไปเลยครับ เที่ยวล่ะ 500 บาท หากต้องการประหยัด ก็รถสองแถว คนละประมาณ 60 บาท ต้องถามเค้าด้วยนะว่า ไปหาดละไม หรือ หาดเฉวง คำนวนเรื่องเวลาด้วยนะ เพราะสองแถว ต้องขอบอกว่าช้ามากกกกก (ผมเข็ดล่ะ)
ที่พักบนเกาะสมุยนั้นมีเยอะ จนบางครั้งก็หากันจนปวดหัว ผมแนะนำให้ลองดูที่ Traveloka ที่นี่เค้ามีเปรียบเทียบราคากับรีวิวลูกค้าให้ดูก่อน แถมมีบางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าด้วยนะครับ เอาล่ะสรุปแล้ว ผมพัก ซินนาม่อน บีช วิลล่า หาดละไม เห็นวิวของที่พักแล้วค่อยหายเหนื่อยหน่อย
สระว่ายน้ำอยู่ติดหาดเลยนะ วิวดี แถมคนน้อย แบบนี้โดนใจนายหัว อิอิ
แต่แดดวันนี้ร้อนขั้นเทพ ขนาดด้านไม่กลัวร้อนอย่างผม ยังต้องขอหลบร่มสักแป๊บ..
ส่วนห้องพักจะอยู่ด้านหลังอย่างที่เห็น ขอบอกว่า Sea View ทุกห้องนะครับ ยิ่งสูงวิวยิ่งสวยนะ ขอบอก..
เราไปเดินสำรวจชายหาดหน้ารีสอร์ทกันดีกว่า ร้อนเปรี้ยงๆ ก็บ่ยันครับ
ทะเลหน้า ซินนาม่อน บีช วิลล่า จะมีลักษณะเป็นอ่าวครับ น้ำจะนิ่งๆ ไม่มีคลื่น
ฝั่งซ้ายนั้นจะติดกับบ้านพักส่วนบุคคล (เค้าเขียนว่างั้น) แต่เราก็สามารถเดินเล่นได้ครับ
ตอนนี้เที่ยงตรง น้ำกะลังลด เราสามารถเดินลงไปได้ไกลเลยนะ
มุมสงบๆ แบบนี้ ผมว่ามันหายากนะ สำหรับเกาะท่องเที่ยว อย่างเกาะสมุย
ทรายบริเวณนี้จะออกหยาบๆ ไปนิด หาดจะไม่เหมาะเล่นน้ำนะครับ เหมาะสำหรับชมวิวชิลๆ มากกว่า
หากมองย้อนกลับไป ซินนาม่อน บีช วิลล่า จะอยู่ตรงส่วนเว้าของหาดพอดีเลย
ผมเดาได้เลยครับว่า บริเวณหาดนี้ ตอนเย็นๆ อากาศดีแน่ๆ จากประสบการณ์เที่ยวทะเลของผมมันบอกอย่างนั้น
เดี๋ยวเราเดินย้อนกลับไปทางขวามือของรีสอร์ทกันบ้างเนาะ
หน้าหาดนั้นถูกดูแลอย่างดีครับ ถ้ามีฝรั่งสวยๆ มานอนอาบแดดสักหน่อย มันจะดีกว่านี้เยอะ แหะๆ
ผมชอบนะ มุมแบบนี้ นั่งดูทะเลเงียบๆ กับท้องฟ้า มีเมฆขาวๆ มันโล่งตาดี
หรือจะมานอนชมวิวตรงสระว่ายน้ำ ก็แหล่มดี ใช่เล่น
ข้างสระว่ายน้ำ ก็มีบริการนวดแผนไทยกันนะ อันนี้ผมคิดว่าฝรั่งคงชอบ
เดี๋ยวตอนเย็นๆ ผมอาจมาใช้บริการนวดสักหน่อย
แหมบรรยากาศแบบนี้ มันจะไม่มีบาร์น้ำได้ไงเนาะ และเราสามารถเช่าเรือคายัคพายเล่นได้ที่นี่ด้วยนะครับ
หากดูภาพหลายๆ ภาพจะเห็นว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น
รวมไปถึงดอกไม้สวยๆ รอบๆสระ ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายดีเนาะ
เอ..จะว่าไปก็น่าเล่นน้ำอยู่นา ร้อนๆ แบบนี้ แต่เอาไว้ตอนเย็นเลยดีกว่า
มาถึงนานแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปดูห้องพักกันเลย ป่ะไปชมกันหน่อยดีกว่า
ทางเดินภายในรีสอร์ท ร่มรื่นดีจัง ช่วยบรรเทาร้อนตอนนี้ได้ดีทีเดียว
เรามาดูห้องพักของผมคืนนี้กัน เย่ย!!! นี่มันห้องน้ำ
ห้องพักที่นี่เปิดประตูเข้ามาปุ๊บ ห้องน้ำจะอยู่ขวามือเลยครับ
เปิดตู้เย็นดู เห็นมีน้ำดื่มตราไฮเน็คเก้น กับตราลีโอ แค่นี้ผมก็เย็นใจแล้วล่ะ อิอิ
นี่เลยครับห้องพักผม สำหรับทริปสมุย 3 วัน 2 คืน คราวนี้
เดินออกไประเบียง อย่างที่บอกครับว่า ซินนาม่อน บีช วิลล่า เป็นห้องประเภท seaview ทั้งหมด
มีโซฟาเล็กๆ พร้อมหมอนน่ารัก เอาไว้นั่งดูทีวีจอใหญ่ๆ พร้อมๆ กับชมวิวทะเลจากในห้องได้เลย
เก็บข้าวเก็บของเสร็จแล้ว ไปเช่ามอไซค์ตะเวนหาไรกินกันก่อนครับ
ผมเลือกกินร้านอาหารข้างทางนี่แหละ แต่เมนูข้าวซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง ต้องบอกว่าอย่างแจ่มเลยล่ะ
ร้านจะอยู่ขวามือก่อนถึงวัดศิลางู
อิ่มหนำสำราญเสร็จ ก็ไม่รอช้าครับ บึ่งมอไซค์ไปที่นี่เลย หินตา หินยาย
ใครเอามอไซค์ไป ผมแนะนำให้จอดเข้าไปข้างในสุดนะครับ จะได้ไม่ต้องเดินไกล เสียค่าจอดคันละ 10 บาท
ต้องบอกว่าวันนี้สมุยร้อนขั้นเทพ ร้อนจน บริเวณหินตาหินยายเกือบจะไม่มีท่องเที่ยวเลย นอกจากฝรั่งสองคน
ก็มีแต่ผมนี่แหละ ที่เป็นคนไทย
แต่แดดแรงเพียงใด เชื่อไหมครับว่าน้ำบริเวณนี้เย็นฉ่ำเล่ยล่ะ
ใครไปเดินเล่นที่ หินตาหินยาย กรุณาใส่ร้องเท้าด้วยนะ เพราะเศษแก้วมีให้เห็นทั่ว
อีกทั้งป้องกันความร้อนจากหินด้วยครับ
พล่ามมาตั้งนาน แล้วไหนล่ะ หินยาย น่ะ นี่ไง หินยายใหญ่ใช่เล่น!!!
ฝรั่งเห็นถึงกับร้อง Oh My God !! ไม่ได้ตกใจขนาดของหินยายนะ แต่ร้องเพราะมันร้อนนนนน
แมมมม๊ หลังจากเจอฝนกับทริปทะเลติดมาสามทริป ทริปนี้มันสะใจผมจริงๆ
ฟ้าสวยแถมสีเขียวของน้ำทะเลก็ใสซะ..
หากใครไปทะเลบ่อย ให้สังเกตนะครับว่า ว่าท้องฟ้าทางทะเลใต้จะมีเมฆขาวๆ แต่ฟ้าทางตะวันออก
จะไม่ค่อยมีเมฆ (ผมมั่วเองอีกล่ะ)
บริเวณหินตาหินยาย จะมีหาดสั้นๆ ด้วยนะครับ ธรรมดาแล้วจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพ
แต่อย่างที่บอก วันนี้ร้อนจัด ไม่มีใครเลย
ซึ่งหาดนี้จะเป็นตัวแบ่งระหว่างหินตากับหินยายนั่นเอง
พอจะมีนักท่องเที่ยวให้เห็นบ้างแล้วล่ะ กลัวกันจริงๆ คนไทยเรา กับแสงแดดเนี่ย
เอ๊ะนั่นอะไรชี้โด่ อยู่นั้นล่ะ อ๋อออ นั่นแหละครับ ที่เค้าเรียกว่า หินตา
หินตานั้นค่อนข้าง ขึ้นไปดูยากนิดนึงนะ อาจจะต้องปีนหินขึ้นไป ไม่ได้ไปดูง่ายๆ เหมือนหินยายนะขอบอก
เอาน่ะ ยังไงก็มาแล้ว เดี๋ยวลองปีนขึ้นไปถ่ายภาพใกล้ๆ กันสักหน่อย
ในที่สุดผมก็ปีนมาจนใกล้ที่สุดของหินตาจนได้ กว่าจะขึ้นมาได้ ไม่ได้เหนื่อยนะครับ แต่มือเกือบพอง
เพราะหินร้อนมากกก
เอาล่ะ แดดดี ฟ้าสวยแบบนี้ เราไปชมวิวสมุย กันที่จุดชมวิวลาดเกาะดีกว่าครับ ขับมอไซค์ไปทางหาดเฉวง
จะอยู่ทางลงเขาพอดีครับ
วิวที่เห็นเบื้องหน้า ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ สวยแหล่มเรยย
มีทางเดินลงไปด้านล่างด้วยนะครับ สำหรับคนที่อยากลงไปชมวิวแบบใกล้ชิดกับทะเล
แต่ผมตากแดดมามากพอแล้วล่ะ ต้องขอยืนรับลมเย็นๆ ด้านบนดีกว่า แหะๆ
ขวามือของจุดชมวิวก็มีบันไดด้วยเช่นกันครับ เดินลงไปชมวิว และรับลม กันได้ตามสบาย
แต่แนะนำเป็นเวลาตอนเย็นจะเหมาะกว่านะ
ตอนเย็นหากมีเวลา อาจจะแวะมาอีกครั้ง ผมคิดว่าอากาศคงน่ารื่นรมณ์มากกว่านี้เยอะ
ผมรู้สึกว่าตัวเองชักจะเวียนหัว ตาลาย คล้ายจะง่วงนอน เดี๋ยวต้องขอตัวกลับห้องพักก่อนนะ
ผมตื่นมาอีกทีเกือบค่ำเลยล่ะ เดินลงมาชมวิวตรงหาดของรีสอร์ท อย่างที่ผมเคยคาดไว้ครับ วิวดีจริงไรจริง
บรรยากาศออกแนวโรแมนติคเลยเนาะ ไอน้ำเย็นๆ บนคลื่นน้ำเบาๆ อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเองจังครับ
ท้องฟ้ายามเย็นของสมุยวันนี้สวยมาก อยากหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้จริงๆ เลย
อยากจะชมพระอาทิตย์ตกดิน ก็ชมกันได้ทีนี่เลย ไม่ต้องไปไหนไกลเลยล่ะ
หรือใครอยากจะมั่งโรแมนติด ริมระเบียงห้องแบบผมก็พอได้นะ (โรแมนติค คนเดียวเนี่ยนะ)
มองจากมุมข้างในห้องพัก ก็สวยดีนะ เปิดประตูหน่อยนี่ เย็นแบบไม่ต้องเปิดแอร์เลยล่ะ
ว่าแล้วก็นอนต่อดีกว่า เย่ย!! ได้ไง มื้อค่ำไง ตื่นแล้วก็ต้องกินสิ ตามระเบียบ
ผมเล็งไว้แล้วตั้งแต่กลางวัน ร้านนี้เลย”ครัวชาวบ้าน” อยู่ติดริมถนนเลย หากออกมาจากหินตาหินยาย เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 4-5 กิโลได้มั้ง
วัตถุดิบของที่นี่น่าสนใจมากครับ เช่น ปลาจุ้มเคย ไข่เม่น เห็ดหลุบ หอยเจาะ ซึ่งเราสามารถเลือกสั่งเมนูได้เองว่าจะเอาไปปรุงแบบไหน
จานแรกเป็นเมนูแนะนำของที่นี่เค้าครับ “ปลาจุ้มเคย” รสชาดคล้าย กับเอาเนื้อปลามายำ จัดจ้านหน่อยนะครับ
เมนูที่สองเนี่ย หลายๆ คนคงรู้จักดี เป็นอาหารดังของทางใต้ “ใบเหรียงผัดไข่” เคี้ยวกันเพลินเลยล่ะ เมนูนี้ อิอิ
เมนูสุดท้าย ผมอยากแนะนำมาก อร่อยโดนใจสุด เผ็ดสุด นั่นคือ “เห็ดหลุบผัดเผ็ด” เผ็ดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เล่นเอาผมต้องนั่งซับเหงื่อกันเลยทีเดียว
“ครัวชาวบ้าน” จะเน้นขายอาหารนะครับ ดังนั้นแค่ สี่ทุ่มกว่าๆ ร้านก็ใกล้จะปิดแล้ว หากใครเน้นนั่งดื่มยาวๆ ผมแนะนำให้ไปร้าน “เสบียงเล” ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
อิ่มกันแล้ว ก็คงต้องขอตัวไปนอนเอาแรงก่อนครับ พรุ่งนี้ผมจะพาไปลุย “หมู่เกาะอ่างทอง”
———————————————
ผมซื้อทัวร์ 1 วัน กับ สมุยไอแลนด์ทัวร์ ราคา 800 บาท เราสามารถโทรไปจองได้เลยครับ วันรุ่งขึ้น รถเค้าจะมารับเราถึงรีสอร์ทเลย จากนั้นจะพาเราไปส่งที่ท่าเรือนาทอน ทางทัวร์จะมีมื้อเช้าไว้คอยบริการบนเรือด้วยนะครับ
เบอร์โทร 081-719-5080, 081-979-6184
สำหรับคนที่ต้องการพายเรือคายัคก็จ่ายเพิ่ม 100 นะ เรือเดินทางประมาณ 1.30 ชม. จะแวะที่หาดหน้าทับ
เพื่อปล่อยเรือคายัค
จะมีไกด์พายเรือนำไปก่อน หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพกเกจคายัค ก็จะพายตามกันไป
ส่วนคนที่ซื้อแพจเกจทัวร์อย่างเดียวแบบผม ก็ต้องเป็นผู้ชมไปก่อน
ผมแนะนำให้ซื้อแพกเกจคายัคไปด้วยเลยนะครับสำหรับคนที่ไม่เคย แล้วท่านจะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน
และจะรู้ซึ้งอีกทีตอนเช้า…ว่ามันเมื่อยแค่ไหน อิอิ
พายไม่เป็น หรือไม่เคยพาย ก็มิเกี่ยวนะขอรับ เมื่อถึงจุด เค้าจะจัดลงเรือทันที ทีนี้แหละความสนุกก็บังเกิด
ผมคุ้นเคยกับกิจกรรมนี้ เลยพอจะรู้ว่ามือใหม่นั้น จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อพายครั้งแรก อิอิ
และแล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ เค้าให้พายไปรวมตัวกันที่หน้าหาด แต่คู่นี้ดันพายกลับเกาะสมุยซะงั้น 55
แหมก็เค้าพายครั้งแรกนี่ อาจจะยังบังคับให้เรือเลี้ยวไม่เป็น กว่าจะรวมตัวกันได้ เล่นเอาฮากันปวดท้องเลยล่ะ
มันช่างเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนของผมจริงๆ ทริปนี้เจอฝนอีกแล้วครับท่าน นี่ยังไม่ถึงหมู่เกาะอ่างทองเลยนะ
เป้าหมายคือ เกาะแม่เกาะ ครับ กว่าจะไปถึงเรียกว่าทุลักทุเลพอควรครับ ผมต้องเดินผ่าสายฝนขึ้นบันไดไม้ เพื่อไปชม” ลากูน” หรือ “ทะเลใน” ผมอาจจะไม่มีภาพในช่วงนี้นะ เพราะฝนตกหนักมาก
การมาสมุยคราวนี้ของผม ไฮไลท์ทริปก็อยู่ทีนี่แหละครับ ได้ชมได้เห็นก็ชื่นใจล่ะ
ถึงจะมีฝนกระหน่ำอยู่ตลอดเวลาก็เถอะ
โชคดีที่กล้อง Olympus OMD ของผมมันกันน้ำ เลยสามารถยืนถ่ายกลางสายฝนแบบนี้ได้
สวยงามจริงๆ ครับ มีบางช่วงที่ฝนหยุด เลยพอจะเก็บภาพมาให้ชมกันได้บ้าง
หลังจากนั้นฝนก็กระหน่ำอีกระลอกใหญ่ แถมนานซะด้วย เลยต้องถอยลงมานั่งเหงาอยู่ริมหาดแทน T_T
หลังจากไกด์เรียกขึ้นเรือแล้ว ปลายทางต่อไปของเราคือ “เกาะวัวตาหลับ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ
พอเหยียบเกาะ คนกรูกันไปถ่ายภาพเจ้าตัวนี้ครับ เรียกว่าเป็นพระเอกเลยล่ะ
ฝูงนึงมีประมาณ 10 กว่าตัว เรียกว่าลงมาให้ยลกันใกล้ๆ แต่เจ้าหน้าที่เค้าห้ามให้อาหารนะ
พระเอกตัวจริง คือเจ้าตัวเล็กสีเผือกนั่นต่างหากล่ะ มองแล้วเหมือนตุ๊กตาเนาะ แม่มันใช้ตัวบังไว้ตลอด
ไม่ยอมให้ถ่ายภาพง่ายๆ เลยล่ะ
ทัวร์จะให้เวลาเราเกือบ 2 ชั่วโมงบนเกาะนี้ เพื่อให้เราขึ้นไปดูชมวิวด้านบน และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ผมเลยหลบมุมนั่งพักตรงนี้หน่อย ถึงฝนจะตกปรอยๆ แต่น้ำทะเล ก็ยังสวยอย่างที่เห็นแหละครับ
สภาพหาดที่นี่จะเป็นหินบางช่วงนะครับ หากใครอยากเล่นน้ำก็เล่นได้ที่หาดบริเวณหน้าอุทยาน
ตัวผมนั้นเปียกทั้งตัวอยู่ล่ะ เลยเน้นหามุมสวยๆ นั่งชมวิวดีกว่า
วิวมันก็ดูเพลินตาดีนะ แต่รู้สึกว่าคนจะเยอะไปนิดนึง เอาน่ะหยุดยาวแบบนี้ใครๆ
ก็อยากมาเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ
ไอย่ะ…วิวมุมนี้กำลังสวยเลย 3ขาว เอ้ยย 3สาว นี่ไม่น่ามาบังวิวเลย พ้มละเบื่อเจงๆ อิอิ
ไฮไลท์เกาะวัวตาหลับ คือจุดชมวิวครับ แต่เชื่อปะ ว่าผมไม่ได้ขึ้นไป สาเหตุน่ะเหรอ นั่งดูสาวเพลินไปหน่อย 55+
นึกขึ้นได้อีกทีก็เมื่อไกด์เค้าเรียกขึ้นเรือซะแล้ว เอากะผมสิ แต่ไม่เป็นไร ผมจะมาใหม่อีกรอบในไม่ช้านี้ล่ะ
พอขึ้นเรือมาปุ๊บเรียกว่าโซ้ยแหลก แหมมันอร่อยทุกอย่างจริงๆ เวลาเเหนื่อยๆ เนี่ย (มองสาวจนเหนื่อย)
ธรรมชาติช่างกลั่นแกล้งคนดีๆ อย่างผมจริงๆ แค่เรือออกจากเกาะนิดเดียว ทั้งฝนทั้งเมฆมันก็หายไปดื้อๆ ซะงั้น
แหม ผมละอยากว่ายน้ำกลับเข้าเกาะซะจริงๆ ฝนตกได้เป็นชั่วโมงตอนอยู่บนเกาะ
พอออกจากเกาะดันหยุดได้ซะงั้น สภาพอากาศเป็นอย่างที่เห็นนีแหละครับ
แป๊บนึงเรือก็ต้องหยุดรอนักท่องเที่ยวอีกสองคน ที่ตกเรือ ไม่ใช่ฝรั่ง แต่เป็นคนไทยเรานี่แหละ เสียเวลาเกือบชั่วโมงครับ สงสัยคงจะลืมคิดว่าพายเรือกันมาเองสองคนมั้ง เลยมาสายซะเกือบชั่วโมง เล่นเอาคนหงุดหงิดทั้งลำเลยล่ะ
ผมก็หงุดหงิดนะ หงุดหงิดคู่เนี้ยะ มานั่งอินเลิฟกันต่อหน้า ตลอดทาง เออ…อย่าให้มีบ้างก็แล้วกัน
ทริปนี้แทนที่จะกลับถึงเกาะสมุย ประมาณบ่ายสามกว่าๆ ตามกำหนดการ เล่นเอาเกือบ 6 โมงเย็น คนที่ซื้อตั๋วเรือกลับฝั่งวันนี้เรียกว่าลุ้นกันตลอดทาง จากนั้นรถรับส่งคันเดิม ก็จะพาเราไปส่งที่พักครับ
อันที่จริงวันนี้ตอนเย็น ผมมีขอถ่ายห้องพักชั้นบนสุดที่ ซินนาม่อน บีช วิลล่า ไว้
แต่เสียดายกลับมามืดไปหน่อยครับ
ห้องนี้จะกว้างกว่าห้องที่ผมพักเกือบเท่าตัวแน่ะ
โทนสีห้องนั้น จะเน้นสีห้องเรียบๆ แสงไฟสีเหลืองอ่อน ชวนให้หลับจริงๆ ขอบอก
มุ้งถูกออกแบบให้เป็นซุ้มดูสวยงามทีเดียว ห้องนี้อยู่ชั้นบนสุด อากาศดีแบบไม่ต้องพูดเลย
ห้องน้ำจะพิเศษกว่าห้องชั้นล่าง คือมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย กลับมาเหนื่อยนี่ แช่น้ำได้ซำบายเลย
ผมว่ามีให้เห็นน้อยนะ ห้องพักที่มีพื้นที่แบบนี้ ส่วนใหญ่รีสอร์ทเค้าจะจัดสรร พื้นที่กันแบบประหยัดซะมากกว่า
ห้องที่ใช้อุปกรณ์สีขาวเนี่ย มันดูสะอาดดีนะครับ ผมว่า ส่วนใหญ่ต่างชาติเค้าจะชอบแบบนี้กัน
ผมมีเวลาถ่ายห้องนี้น้อยไปหน่อย น่าเสียดายเนาะ งั้นเดี๋ยวออกไปตะเวนราตรีซะหน่อยดีไหม
เอาล่ะคืนนี้วันอาทิตย์ เราไปเดินถนนคนเดินหาดละไมกันหน่อย อยู่ติดกับโลตัสครับ
จากที่ดูๆ แล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือของกินครับ ซึ่งเป็นอาหารประเภทใต้แท้ๆ และอาหารพื้นบ้านของสมุยเค้า
และก็มีอาหารนานาชาติ เพื่อรองรับสำหรับนักท่องเที่ยว ผมล่อบาร์บีคิวไปไม้นึง เล่นเอาอิ่มเลยล่ะ
แต่ที่อยากให้ลอง คือขนมจีน มีน้ำยาหลากหลายให้เลือก ซึ่งน้ำยากะทิของทางใต้นั้น
ใช่ว่าจะเหมือนกันหมดนะครับ ต้องลองแล้วจะรู้
เดินชม เดินชิมไปเรื่อยๆ ครับ ไม่ต้องรีบ มีให้ลองชิมเยอะเลย อิอิ
เดินไปจนสุดทางก็จะเป็นชาดหาด และเราจะเจอรีสอร์ทตลอดริมหาดเลย ผมจำไม่ได้ล่ะว่ารีสอร์ทนี้ชื่ออะไร
หรือเราจะเดินซื้อของกิน ไปนั่งกินริมหาดก็ได้นะ คนเยอะพอควร แต่อย่าไปไกลมากล่ะ มันมืดมาก
หรือเดินเหนื่อยๆก็นั่งพักดื่มน้ำ (มี Lกฮ) ก่อนก็ได้นะ บริเวณสุดทางถนนคนเดินที่ติดกับหาดมีหลายร้านเลย
ระยะทางไม่ได้ไกลมากครับ ขากลับแวะชิมซาลาเปาทอดลูกนึง อืมม อร่อยดีนะ
ผัดไท จ้าวนี้ขายดีสุดๆ เดินดุ่มๆ เข้าไปสั่งนี่ไม่ได้กินนะครับ ต้องสั่งไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาอีกที ขายดีเวอร์ครับ
เอาล่ะคืนนี้ต้องขอตัวกลับไปนอนก่อนครับ และก็ไม่ลืมหิ้วซาลาเปาทอดไปเป็นเสบียง แหะๆ
พรุ่งนี้เช้าเราไปไหว้พระใหญ่กัน
——————————————
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเกาะสมุย ผมตื่นแต่เช้าบึ่งมอไซค์ไปทางหาดเฉวง เติมพลังด้วยข้าวราดแกงป้าวันดี
มื้อนี้สมใจผมล่ะ หลังจากที่มองๆ ข้าวราดแกงมาหลายมื้อ สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตคือ เกาะสมุยมีแต่ร้านข้าวมันไก่เต็มไปหมด สงสัยเน้นขายฝรั่งมั้ง
ส่วนขนมจีนนั้น เราต้องเลือกเติมน้ำยาเอาเองนะ ชอบแบบไหนเลือกเอาตามใจฉัน
แล้วร้านป้าวันดีอยู่ตรงไหนล่ะ ต้องบอกว่าร้านนี้ไม่ใช่ร้านอาหารใหญ่นะครับ เป็นร้านชาวบ้านทั่วไป มีโต๊ะตัวเดียว เก้าอีก 4 ตัว ลูกค้าก็จะเป็นคนในพื้นที่ ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่อยากให้ลองครับ จะได้รู้ว่ารสชาดอาหารสมุยแบบแท้ๆ มันเป็นยังไง ผมเดาจากปริมาณกับข้าวแล้ว น่าจะขายแค่เช้าถึงสายๆ ครับ หากเรามาจากหาดละไม พอเลยจุดชมวิวลาดเกาะไปหน่อย ก็ให้สังเกตป้ายด้านขวามือครับ เป็นร้านเล็กๆ ต้องตั้งใจมองกันนิดนึงนะ
เอาล่ะผมถึงเป้าหมายของผมในเช้าวันนี้แล้ว วัดพระใหญ่ เกาะสมุย
วัดนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ผมเลยรีบมาไหว้ซะตั้งแต่เช้าๆ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเต็มวัด
กำลังนั่งไหว้พระ ก็ตกใจนึกว่าเสียงอะไร พอเงยหน้านขึ้น ก็ร้องอ๋อครับ บินข้ามเศียรพระเลยเนาะ ใครหนอช่างออกแบบสนามบิน !!!
องค์พระใหญ่นั้นสีทองสวยงามมากครับ หากได้มาชมองค์พระตอนมีแดด คงจะงดงามกว่านี้
วันนี้ที่สมุยฝนยังตกอยู่ครับ อาจเป็นสาเหตุนึงที่ตอนนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเลย
ตอนเช้าๆ ได้เข้าวัดแล้ว รู้สึกดีขึ้นจริงๆ ครับ งั้นเดี๋ยวเราไปอีกวัดนึงต่อเลย
วัดที่ว่าคือวัด วัดราชธรรมาราม หรือ วัดศิลางู อยู่ตรงละไม ไม่ไกลจากหินตาหินยายเท่าไหร่ จุดเด่นของวัดนี้ คือโบสถ์สีแดงครับ
บริเวณวัดนั้นจะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีเจดีย์สีทองอยู่กลางวัด
วิวจากศาลาท่าวัด ก็แจ่มใช่เล่นนะ แถมวัดนี้เงียบดีซะด้วย
ผมเห็นมีคนลงไปเล่นน้ำ ถ้าเช่นนั้นมันก็ต้องมีทางลงสิว่าไหม
นั่นไงครับ ทางลงอยู่หลังเจดีย์สีทองนั่นเอง
ไอย่ะ ต้องบอกว่าแหล่มมาก ไม่อยากเชื่อว่ามีหาดสวยๆ ซ่อนอยู่หลังวัดแบบนี้
น้ำทะเลใสปิ๊งเลยทีเดียว แถมตรงท่ามีเก้าอี้ให้นั่งชมวิวด้วยครับ
ลักษณะหาดจะเป็นหินก้อนใหญ่ กับหาดทราย แต่ไม่เหมาะกับเล่นน้ำเท่าไหร่ครับ เพราะว่าหินค่อนข้างคม
ดูกันชัดๆ อีกทีครับ ว่าน้ำใสปิ๊งอย่างที่ผมบอกไว้ป่าว
ตอนนี้อาจจะร้อนไปนิด แต่ตอนเย็นๆ ผมคาดว่าที่นี่น่าสนใจมากครับ
ฝั่งซ้ายมือของหาดจะมีรีสอร์ทนึง ติดกับวัด น่าสนใจสำหรับทริปสมุยคราวหน้า อิอิ
ส่วนไกลไปหน่อยก็เป็นรีสอร์ทหลังคาสีแดงนั่นแหละ แต่ผมไม่รู้ชื่อรีสอร์ทนะ
บอกแล้วไงครับ ว่าวันนี้ผมเน้นไหว้พระ เดี๋ยวเราไปเจดีย์แหลมสอ กันต่อเลย
เจดีย์แหลมสอ จากแผนที่นั้น จะอยู่ใต้สุดของเกาะเลยครับ ขับรถไปไกลนิดนึงอยู่กลางสวนมะพร้าวเลยล่ะ
สภาพทะเลบริเวณนี้เป็นหินหยาบก้อนใหญ่ครับ อาจจะลงไปไม่ได้ แต่ที่นี่วิวดี ลมเย็นมากขอบอก
อาคารใกล้ๆ จะมีการเลี้ยงปลาไว้ด้วย ผมสอบถามได้การว่าเป็นปลากระพง ตัวใหญ่เป้งๆ อย่างที่เห็น
รู้สึกว่าจะคุ้นเคยกับคนดีซะด้วย สู้กล้องใหญ่เชียว
หลังจากนั้นผมก็เผชิญกับสายฝนอีกเช่นเคย คราวนี้เล่นเอาน้ำท่วมถนนบนเกาะสมุยเลยล่ะ ผมติดฝนอยู่หน้าเรือนจำเกาะสมุย(ที่อื่นเยอะแยะไม่ติด) 2 ชั่วโมงเต็ม หวั่นใจเหมือนกันว่าจะทันรถหรือเปล่า เพราะต้องกลับไปเอาสัมภาระที่รีสอร์ทก่อน สุดท้ายต้องยอมฝ่าฝนกลับครับ ไม่งั้นไม่ทันรถแน่นอน ขากลับนั้นเหมาแท็กซี่เที่ยวล่ะ 500 จากรีสอร์ทไป บขส.สมุย ใช้เวลาเกือบชั่วโมง เพราะน้ำท่วมถนนรถวิ่งได้ช้า เรียกว่าทริปนี้ได้ลุ้นกันตลอดทริปเลยทีเดียว
การเดินทางไปเกาะสมุย เกาะใหญ่ขนาดนี้แถมมีเครื่องบิน บินข้ามเศียรพระแบบนี้ ก็ย่อมมีสนามบินอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการเดินทางโดยสายการบินผมคิดว่าสะดวกที่สุดล่ะครับ หลังจากนั้นค่อยเช่ารถ หรือมอไซค์ตระเวนให้ทั่ว
การเดินทางโดยรถบขส เราสามารถขึ้นรถได้ที่ สายใต้ใหม่ และหมอชิตครับ แนะนำให้ซื้อตั๋วเรือพ่วงไปด้วยเลย และให้ซื้อตั๋วรถไปกลับเลยครับ เพราะจะมีส่วนลดเยอะ แล้วจะรู้ว่ามันถูกเอามากๆ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ก็สะดวกดีครับ เอารถลงเรือเฟอร์รีที่ดอนสัก พอขึ้นเกาะ ก็ยังใช้รถขับตะเวนเที่ยวได้อีกด้วย ซึ่งมีคนเอารถขึ้นเกาะกันเยอะทีดียว
รีสอร์ท ที่พักเกาะสมุยนั้น ต้องบอกว่าเยอะมาก เพราะเกาะสมุยเป็นเกาะใหญ่ ผมเองคงแนะนำให้ไม่ได้ว่าที่ไหนดี ซึ่งมีทั้งรีสอร์ทอย่างหรู โรงแรมอย่างดี แต่ที่พักเกาะสมุยราคาถูก ก็ใช่ว่าหาไม่ได้ซะเลยทีเดียวนะ แหล่งท่องเที่ยวที่ห่างไปหน่อย ที่พักน่าอุดหนุนอยู่เช่นกัน ผมเลือกพักที่ ซินนาม่อน บีช วิลล่า รีสอร์ท คราวนี้เนื่องจากเน้นวิวสวย บรรยากาศดีๆ กับเค้าบ้าง ราคาก็ไม่ได้แพงเวอร์เกินไป ที่สำคัญอยู่ใกล้แหล่งกิน แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งสะดวกมากเลยครับ
ร้านอาหารแนะนำ เกาะสมุย ร้านดังๆ แถวหาดละไม ก็คงเป็น เสบียงทะเล แต่ผมมันเป็นพวกไม่ค่อยเหมือนใคร ไปทะเลคราวใด ไม่ค่อยจะหาอาหารทะเลกินเท่าไหร่หรอก ดันไปถูกใจอาหารท้องถิ่นซะงั้น สำหรับเกาะสมุยถ้าให้ผมแนะนำ ก้อไม่พ้น ครัวชาวบ้าน นั่นแหละครับ รสเด็ดจริงๆ อันนี้ไม่ได้โม้ แต่ที่แปลกใจคือทำไมเกาะสมุย มีร้านข้าวมันไก่เยอะมาก เค้ามีฟาร์มไก่กันบนเกาะหรืออย่างไร อันนี้ ผมใคร่อยากรู้จริงๆ นะ
สถานที่ท่องเที่ยว เกาะสมุยต้องบอกว่าที่ผมไปมานั้น ถือว่ายังน้อยมาก สำหรับแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะครับ ส่วนหินตาหินยายนั้น ใครไปสมุยแล้ว ไม่ไปเยือนก็เหมือนกับไปไม่ถึงเนาะ ที่ผมชอบมากสำหรับสมุยคือ เราสามารถนั่งเรือไปเที่ยวหมู่เกาะต่างๆ ได้อีกเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเป็น หมู่เกาะอ่างทอง เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน เป็นต้น
ทริปนี้ผมไม่ค่อยได้เตรียมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวมากนัก เพราะเป้าหมายของทริปนี้ คือ ทะเลใน แห่งหมู่เกาะอ่างทอง ทริปนี้เลยอาจเที่ยวได้ไม่เยอะนัก แต่ก็หวังทริป เกาะสมุย 3 วัน 2 คืน ก็คงพอให้ข้อมูลกันได้บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนครับ ผมมีโปรแกรมไปเยือนเกาะสมุยอีกแน่นอนในไม่ช้านี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลที่พัก ซินนาม่อน บีช วิลล่า รีสอร์ท
โทรศัพท์ :Tel : 66 (77) 960 891 – 6
Website : ซินนาม่อน บีช วิลล่า รีสอร์ท
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง …..นายหัว
อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus OMD EM5 , Nikon D3
เลนส์ : Panasonic 14mm/F2.5 ,zuiko 12-50/f3.5-6.3, Nikor 14-24N