สิงห์บุรี ทำบุญ ไหว้พระ สักการะพระนอน
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันหยุด เลยถือโอกาสไปไหว้พระที่สิงห์บุรีซะเลยครับ
ผมต้องการเอาเลนส์ใหม่ไปทดสอบด้วย ทริปนี้ก็คงเป็นมุมมองโค้ง ๆ แบบตาปลากันนะครับ
ไปแต่เช้าเช่นเคยครับ วัดแรก วัดไชโยวรวิหาร
เจอเจ้าถิ่นชื่อว่า เจ้าสวย (เพศผู้นะ) ขี้เล่นมาก ๆ วิ่งพล่านไปหมด กว่าจะถ่ายมันได้สักภาพเล่นเอาเหนื่อย
บรรยากาศยามเช้า สงบมาก ๆ อากาศก็สดชื่นเสียจริงๆ
เข้าไปกราบหลวงพ่อ ตามที่ตั้งใจเอาไว้ก่อนเลยล่ะกัน
องค์หลวงพ่อองค์ใหญ่ สีทองอร่าม สมกับเป็นพระจังหวัดอ่างทองจริงๆ พระจังหวัดนี้ใหญ่ ๆ ทั้งนั้นนน
หลังจากกราบพระเสร็จหันหลังกลับมา เจอแสงยามเช้าสวย ๆ ผมล่ะชอบแสงแบบนี้จริง ๆ
และก็ไม่ลืมทำตัวเป็นคนดี (ปิดทองหลังพระ แหะ ๆ)
วัดนี้มีองค์หลวงพ่อโตด้วยนะครับ เอาเป็นว่าวัดเดียวมีพระให้ไหว้กันเยอะเชียวล่ะครับ
เอาล่ะ บ๊ายบาย กับเจ้าสวยแล้ว ก็ออกเดินทางสู่ที่หมายต่อไป
ออกมาจากวัดไชโย เห็นมีป้ายบอกทางไปวัดพิกุลทอง เอาน่ะไหน ๆ ตั้งใจมาไหว้พระแล้ว ก็ไปดูซะหน่อย
บรรยากาศทางเข้าวัดโล่งแจ้ง ลมพัดเย็นสบายมากครับ อดไม่ได้ที่จะลงไปถ่ายภาพ
ที่เห็นไกล ๆ นั้นคือ หลวงพ่อใหญ่ประทานพร (เอ๊ะ…เงาใครหนอออ)
บริเวณด้านข้างที่จอดรถของวัดพิกุลทอง มีองค์พระพิฆเนศ ให้กราบไหว้ด้วย ต้องบอกว่าลมพัดเย็นจริงๆ
ลืมอากาศร้อนที่ กทม ไปเลยแหละ ขอบอก…
ถึงแม้อากาศอาจจะร้อนจัด แต่ก็ยังมีผู้คนเข้ามากราบไหว้ไม่ขาดสาย ดูได้จากธูปเทียนดอกไม้
เอาล่ะครับ ที่เห็นคือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี (หลวงพ่อใหญ่ประทานพร) ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว กันเลยทีเดียว
แดดในตอนนี้เล่นเอาผมหน้ามืดเลยล่ะ (อันที่จริงหน้าผมมืด(ดำ)มันตั้งแต่เกิดแล้วแหละ หุหุ) เลยต้องขอหลบแดด ดื่มน้ำเย็น ๆ สักหน่อย
ผมสังเกตเห็นไม่มีคนขึ้นไปด้านบน เลยสอบถามคนดูแลที่นั่นได้คำตอบว่า ขึ้นไปได้
และเดี๋ยวจะได้คำตอบเองว่า ทำไมไม่มีใครขึ้นไป
ขึ้นมาปุ๊บ ผมนั่งถ่ายภาพนี้พอเอาก้นลงพื้นปุ๊บกระเด้งกลับขึ้นทันที… แว๊กกกก ก้นจะไหม้ป่าวเนี่ยยยยยย
เพราะมันร้อนมากนี่เอง เลยไม่มีใครขึ้นมา….งั้น..ลูกช้าง ลาลงไปด้านล่างก่อนนะหลวงพ่อ..
รอบ ๆ องค์พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี มีภาพวาดเล่าเรืองของ พระพุทธเจ้า ลายเส้นและสีสัน สวยงาม
เก็บมาฝากกันสักภาพล่ะกัน ของจริงสวยกว่านี้ครับ
ถ้าเราเดินย้อนกลับมาทางหน้าวัด จะพบกับพระสังกัจจายน์ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น มีคนไปหลบร้อนบริเวณนี้กันเยอะ
ใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที จนทนไม่ได้ที่ขอพึ่งฝ่ามืออรหันต์หลบแดด
ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย กราบลาหลวงพ่อไปหาอะไรกินก่อนนะครับ
ยัง…..ยังไม่ได้กินข้าว แวะกราบอนุสาวรีย์บางระจันก่อน ไม่ลืมที่จะอธิษฐานให้บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ
หลังจากนั้นข้ามถนนมาอีกฝั่ง กราบไหว้หลวงปู่ธรรมโชติเพื่อเป็นศิริมงคล
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วข้าวค่อยกิน ตรงไปที่วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับผมเลยล่ะ
แต่…เค้ากะลังบูรณะใหม่ จากองค์สีทอง กลายเป็นสีดำซะนี่
ไม่เป็นไรครับ วันนี้ก็ไหว้พระมาเยอะแล้ว เดินออกมาด้านหน้าวัด ให้อาหารน้องควายดีกว่า ..อ๊ะ เก๊กหล่อออ
น้องโค ข้าง ๆ ขอมั่ง..อ่ะ จัดปายยย
น้องวัวก็ไม่ยอม ขอแชะสักภาพ
บ่ายโมงกว่าแล้วล่ะ ที่หมายต่อไปคือ แม่ลาปลาเผา มาสิงห์บุรี เค้าบอกต้องกินปลาเผา
(กว่าจะได้กินเปลาเผา แดดเผาจนเผมเกรียมไปแล้วเนี่ยย)
ถ่ายไป มือสั่นไป แหะ ๆ (หิวจัด) จานต่อไป ตำปูปลาร้าาา..
…ต้มเปรตไก้บ้านร้อน ๆ แหมช่างเข้ากับอากาศร้อน ๆช่วงนี้เสียจริงๆ
สี่โมงเย็นก็กลับถึง กทม แล้วล่ะครับ ทริปนี้ผมถ่ายภาพมาเยอะ
แต่ส่วนใหญ่เป็นการถ่ายแบบทดลองเลนส์ซะมากกว่า ยังไม่ค่อยคุ้นกับเจ้าเลนส์ตัวใหม่มากนัก
++++++++++++++
ขอบคุณที่ติดตามกันเช่นเคยครับ….นายหัว
อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus E3
เลนส์ : Zuiko 11-22 f/2.8-3.5, 8mm fisheye