รีวิวเที่ยวเขาสามร้อยยอด สถานที่ท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์
เขาสามร้อยยอด เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ติดกับปราณบุรี สามร้อยยอดจะมีชายหาดที่ต่อกับชายหาดของปราณบุรี คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยไปเที่ยวทางทะเลกันมากนัก เนื่องจากสามร้อยยอดนั้นเป็นพื้นที่ของอุทยานดังนั้นความสะดวกสบาย ไม่อาจจะเทียบกับปราณบุรีและหัวหินได้ แต่ถ้าเราตัดความสะดวกสบายออกไป สามร้อยยอด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างจะครบครันครับ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ที่พัก ถ้ำ จุดชมวิว ล่องเรือ ป่าชายเลน เกาะ ส่วนที่พักก็จะมีทั้งที่พักราคาถูกของอุทยานและโฮมเสตย์ของชาวบ้าน
อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอดเข้าได้สองทางนะครับ ทางแรกก็มาจากปราณบุรี อืกทางนึงคือ เข้าตรงมาถนนเพชรเกษมเลย หากเราเข้ามาทางถนนเพชรเกษมแหล่งท่องเที่ยวแรกที่เราจะเจอคือ จุดชมวิวเขาแดง
ผมไปถึงที่นี่แต่เช้าตรู่ เพื่อตั้งใจไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
ต้องบอกกันไว้ก่อนนะครับว่า ทางขึ้นจุดชมวิวเขาแดงนั้น ไม่สบายอย่างที่คิด เส้นทางนั้นยังดิบๆ
ไม่มีขั้นบันไดให้นะ
ทางขึ้นนั้นเป็นอย่างที่เห็นในภาพครับ ยังดีหน่อยที่เจ้าหน้าทีได้นำเชือกมาผูกไว้
เพื่อให้ใช้เป็นที่ยึดตอนปีนขึ้นไป
ระยะทาง 322 เมตรตามที่ป้ายบอกนั้น มันยาวไกลเหลือเกินครับ ใครจะขึ้นไปต้องถามใจตัวเองให้ดีก่อนนะ
ผมไม่อยากจะบรรยายเส้นทางเท่าไหร่นะ กลัวจะหมดกำลังใจกันซะก่อน เอาเป็นว่าขึ้นไปเรื่อยๆ
หากเจอป้ายนี้แสดงว่า ท่านขึ้นมาถึงแล้วล่ะ
วันนี้อากาศดีแต่เช้า แต่พอผมขึ้นมาถึงยอด ฝนตั้งเค้าซะงั้น เออ!!.ให้มันได้อย่างนี้สิ
ข้างบนนี่ต้องบอกว่าลมพัดแรงมากครับ วิวสวยได้ใจ ถึงแม้ฟ้าจะหม่นๆ ไปหน่อยก็เถอะ
นี่ถ้าไม่มืดฝนนะ ผมขึ้นมาทันพระอาทิตย์ขึ้นพอดีเลยนะ
มองไปทางซ้ายมือ นั่นคือเส้นทางไปปราณบุรีครับ เราจะเห็นยอดเขามากมายสมชื่อสามร้อยยอดจริงๆ
มองไปทางขวามือครับ เห็นยอดเขาพวกนี้แล้ว ต้องถามตัวเองว่า “ตรูขึ้นมาได้ไงเนี่ย”
ท่านใดที่สนใจขึ้นมาชมวิวบนเขาแดง แนะนำให้เตรียมรองเท้ามาให้พร้อมนะครับ
เพราะหินที่นี่ค่อนข้างจะคมเลยทีเดียว
ถึงแม้มีฟ้าฝนมาบดบังวิว แต่ขึ้นมาซะขนาดนี้ยังไงก็ต้องนั่งซึมซับบรรากาศให้คุ้มค่าซะก่อน
อีกอย่างผมแนะนำว่าหากจะขึ้นมาที่นี่ อย่ามาตอนเที่ยงๆ นะครับ อาจจะร้อนเกิน ผมมองว่า ช่วงเช้า
และช่วงบ่ายแก่ๆ วิวน่าจะแจ่มกว่า
นั่งไปสักพัก รู้สึกว่าฝนมันจะเอาจริงครับ อาจจะทำให้เดินลงลำบาก งานนี้ขอเผ่นก่อนเลยดีกว่า
ขากลับนี่เจอเจ้าถิ่นมาต้อนรับกันเพียบครับ อาจเป็นเพราะอยู่ในพื้นที่อุทยาน ค่างแว่นพวกนี้
เลยไม่กลัวคนเอาซะเลย
เอาล่ะครับ นี่ก็ยังเช้าอยู่ ลงมาจากจุดชมวิวเขาแดงกันแล้ว ขับรถต่อไปอีกหน่อย
เราไปล่องเรือคลองเขาแดงกันดีกว่า
ค่าบริการเที่ยวล่ะ 400 บาทครับ ไปกลับเกือบๆ 45 นาที ตอนเช้าๆ ผมแนะนำเลยนะ อากาศดีมากๆ ครับ
เรือลำนึง นั่งได้เกือบ 10 คนครับ ถือว่าเที่ยวละ 400 บาทคุ้มมาก ถ้าไปกันหลายคน
ดูจากจำนวนเรือที่จอดรอแล้ว ผมคาดว่าวันนึงก็มีคนใช้บริการกันเยอะเหมือนกันนะ
เอาล่ะ ลำนี้ล่ะ ที่จะพาผมไปชมวิวคลองเขาแดง เดินระวังก่อนหน่อยนะครับ สะพานที่นี่เค้าเน้นแบบธรรมชาติ
แหม พอลงจากจุดชมวิวเขาแดงมานี่ รู้สึกฟ้าเปิดตลอด ธรรมชาตินี่กลั่นแกล้งกันได้ตลอดเวลาจริงๆ เนาะ
สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้เมื่อออกเรือ นั่นคือความบริสุทธิ์ของอากาศครับ ที่นี่อากาศดีจริงๆ
สองข้างฝั่งของคลองเขาแดงนั้นผมคาดไว้ว่าจะเจอหมู่บ้านของชาวประมง แต่ผิดจากที่ผมคาดไว้เยอะครับ
สองข้างทางกลับกลายเป็นวิวของยอดเขา และป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์
ซึ่งเป็นแหล่งหากินของชาวประมงแถวนี้ครับ
มองไปทางไหนก็จะเจอการวางอวนจับปลา คนขับเรือบอกว่าโซนนี้เป็นโซนจับปลาหลักๆ ของชาวบ้านเลย
นั่งชมวิวสองข้างทางไป ต้องบอกว่าทำให้นึกถึงการวาดภาพสมัยเด็กๆ ที่มีภูเขา กระท่อม แม่น้ำ อะไรประมาณนี้ บรรยากาศมันได้จริงๆ
ยอดเขาที่เราเห็นนั้น คือที่มาของ ชื่อ บ้านเขาแดงครับ ซึ่งตั้งจากสีของหน้าผาที่มีลักษณะเป็นสีแดง อย่างที่เห็น
ต้นไม้สีเขียวสด แถมมีฉากหลังเป็นภูเขา นั่งมองจากเรือแล้วมันสบายตาดีแท้ๆ
ผมเคยมาสามร้อยยอดหลายครั้ง ต้องบอกว่าครั้งนี้ผมรู้สึกได้ว่า ผมมาถึงแล้วจริงๆ ครับ
ทุกๆ ครั้งที่เคยมาส่วนใหญ่จะเน้นทะเลซะเป็นส่วนใหญ่ เพิ่งจะได้เข้าถึงความเป็นขุนเขาของสามร้อยยอด
ก็คราวนี้แหละ
ผมเคยคิดว่าบริเวณตีนเขาของสามร้อยยอดจะเป็นป่า แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นที่ราบลุ่มน้ำซะส่วนใหญ่
เรือจะพาเราวนเป็นตัว U ครับ หลังจากนั้น ก็เข้ากลับทางเดิมที่เคยมา
พอสายๆ หน่อยท้องฟ้าสวยมากครับ แดดอ่อนตอนเช้า กับลมเย็นๆ จากไอน้ำ
เรียกว่าลืมเหนื่อยจากจุดชมวิวเขาแดงไปเลยล่ะ
ว้าาา นั่งรับลมเพลิน ก็ถึงซะล่ะ แล้วจะไปไหนต่อดีละเนี่ย ยังเช้าอยู่เลย
ขับรถต่อมาอีกนิดครับ จะเจอป้ายวัดหุบตาโคตรตลอดทาง เค้่าบอกว่าที่มีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ให้สักการะ
ป่ะแวะไหว้พระกันก่อน
วัดหุบตาโคตร ตั้งอยู่หน้าภูเขาเลยครับ มองจากถนนใหญ่ทำเลดูสวยมากเลย ไหว้หลวงพ่อโตเสร็จ เดี๋ยวเราไป หาดสามพระยากันต่อเลย
หาดสามพระยา อยู่ตรงข้ามเยื้องๆ กับวัดหุบตาโคตรครับ เป็นหาดที่เงียบบบบบ มากกกก
มีร้านอาหารของทางอุทยานด้วยครับ ที่นี่เหมาะสำหรับแวะทานข้าวเที่ยง พร้อมชมวิวทะเลสงบๆ
หลังจากอิ่มแล้ว ผมก็มานั่งทอดกายสบายอารมณ์อยู่ตรงนี้พักนึง เอาล่ะไปกันต่อเลย
หาดแหลมศาลา คือเป้าหมายต่อไปครับ ซึ่งหาดนี้จะเป็นจุดทางขึ้นถ้ำพระยานครนั่นเอง
หาดนี้จะมีที่จอดรถ ห้องน้ำ และร้านค้า และเรือนำเที่ยวไว้คอยบริการพร้อมครับ
เป้าหมายหลักของคนที่มาหาดนี้ ก็เพื่อข้ามไปยังถ้ำพระยานครซึ่งมีภูเขาคอยกั้นอยู่ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นเขา หรือ จะนั่งเรืออ้อมไป
หากจะเดินข้ามเขาไป ทางขึ้นจะอยู่ทางขวามือครับ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยให้บริการข้อมูลอยู่ครับ
วันนี้ผมไปปีนจุดชมวิวเขาแดงมาแล้ว คิดว่าไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินขึ้นเขาอีก
เลยใช้บริการเรือไปส่ง ราคาไม่แน่นอนครับ อาจจะ 500,400 หรือ 350 ขึ้นอยู่กับอารมณ์คนขาย
และความสามารถคนต่อราคา(ผมเจอมากับตัว)
ไม่ถึง 10 นาทีผมก็มาถึงอีกฝั่งแล้วครับ ซึ่งหาดนี้จะเป็นทางขึ้นไปยังถ้ำพระยานคร และคืนนี้ผมจะพักที่นี่ครับ
อย่าลืมเก็บตั๋วโดยสารเรือไว้นะครับ เพราะขากลับเราต้องใช้ตั๋วนี้กลับเรือลำเดิมครับ
อันที่จริงเวลาก็มีเวลามากพอ ที่ขึ้นไปชมถ้ำพระยานครนะครับ
แต่…ผมขอพักเอาแรงไว้ขึ้นพรุ่งนี้ดีกว่าครับ วันเดียวขึ้นเขาสองลูก บ่องตงผมสงสารสังขารตัวเอง 55
หลังจากที่ชำระค่าธรรมเนียมอุทยานเสร็จแล้ว สิ่งแรกที่ทุกคนจะเจอคือร้านอาหารครับ มีร้านเดียวบนหาดนี้
ผมจองบ้านพักชื่อ บ้านแหลมศาลา ราคา 1600 บาท ซึ่งต้องจองผ่านเวปไซค์ของอุทยานนะครับ
เอาล่ะผมขอเอาของไปเก็บที่บ้านพักก่อนล่ะกัน ก่อนจะไปดูบริเวณรอบๆ หาดนี้
เอาล่ะครับเก็บของเสร็จแล้ว เราไปเดินดูบ้านพักหลังอื่นๆ กันหน่อย
ผมจะไล่จากสุดหาดก่อนเลยครับ หลังนี้ชื่อ บ้านริมสน
เนื่องจากมีแขกพัก ผมเลยไม่สามารถถ่ายภาพในบ้านพักมาให้ดูได้นะครับ
บ้านพักนั้นมีขนาดใหญ่มากครับ พักได้เยอะ วันที่ผมไปก็มีนักศึกษามาพักเพื่อทำกิจกรรม
หลังถัดมา ชื่อบ้านเทียนเขา
บ้านเทียนเขา มีขนาดใหญ่เช่นกัน หลังนี้มีลักษณะแยกเป็นห้องๆ คล้ายอพาร์ทเมนท์ครับ
และมีระเบียงยื่นออกมาต่างหาก สำหรับนั่งสังสรรค์หรือนั่งทานข้าว
พื้นที่รอบๆ นั้น ดูสะอาดดีทีเดียวล่ะ บ้านเทียนเขา เหมาะสำหรับการเข้าพักเป็นหมู่คณะเช่นเดียวกัน
หลังต่อมา เป็นบ้านแหลมศาลา ซึ่งเป็นผมบ้านพักของผมคืนนี้
บ้านแหลมศาลา ราคา 1600 มี 2 ห้องนอน 6 เตียง 3 ห้องน้ำ เรียกว่าพักได้ 10 คน สบายๆ
มาตรฐานของห้องพักก็เป็นไปตามมาตรฐานอุทยานไทยทั่วๆ ไปครับ อาจจะไม่สวยหรู แค่สะอาด
และสะดวก ก็ถือว่าโอเคแล้ว
ห้องนี้เป็นห้องเล็ก มีเตียง 2 เตียง พร้อมห้องน้ำ 1 ห้องครับ
อีกห้องนึงจะเป็นห้องใหญ่ มี 4 เตียง ห้องน้ำ 1 ห้อง
อย่างที่บอกครับว่า อุปกรณ์ครบครัน คุ้มค่ากับราคากันเลยทีเดียว
ตรงกลางห้องจะมีกระติกน้ำร้อน และแก้วไว้ให้ด้วยครับ และก็มีห้องน้ำส่วนกลางอีก 1 ห้อง
มองไปทางซ้าย เป็นเล็ก 2 เตียงครับ
ทางขวาเป็นห้องใหญ่ 4 เตียง..
ห้องน้ำอาจมีสภาพเก่าไปนิดนึง แต่บอกได้เลยว่าสะอาดหายห่วงครับ
ในบ้านนั้นมีพื้นที่กว้างขวางเยอะครับ เรียกว่ามาพักกัน 20 คน ปูเสื่อนอนกันได้สบายๆ เลย
ทางอุทยานเค้าไม่ได้จำกัดจำนวนคนพักต่อหลังนะครับ ราคา 1600 นี้ จึงถือว่าคุ้มมากๆ ถ้าพักเป็นหมู่คณะ
ถัดจากบ้านแหลมศาลา ก็จะเป็นห้องน้ำรวม(ห่างจากบ้านพักนะครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น
ห้องน้ำเค้าสะอาดเวอร์) และเป็นร้านครัวยอดแก้ว
หลังจากนอนงีบแป๊บนึง ก็ถึงเวลามื้อเย็นแล้วล่ะ เมนูแรกเลย “หมึกผัดไข่เค็ม”
เมนูต่อไปอันนี้ผมเน้นเป็นกับแกล้มซะมากกว่า “กุ้งแช่น้ำปลา” รสชาดจี๊ดอย่าบอกใคร
เมนูต่อไปผมเห็นปุ๊บรีบสั่งทันที เพราะชอบกินปลาทูมาก “ยำปลาทู” ปลาเค้าสดจริงๆ ครับ เนื้อหวานมากๆ
เมนูต่อไปนี่ นั่งแทะกันยันมืดเลย ตัวเล็กไปนิด แต่ของเค้าสด ยังไงก็อร่อย
กว่าจะเก็บกวาดมื้อเย็นลงท้องได้หมด ก็ใช้เวลานานพอควร ถึงเวลาต้องเข้านอนล่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราไปเที่ยว ถ้ำพระยานครกันครับ
——————————————-
ตื่นเช้าวันนี้เกือบไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นแน่ะ
อากาศตอนเช้าของที่นี่บอกได้เลยว่าสุดๆ มีลมพัดเย็นๆ ด้วยนะ แถมไม่มีเสียงเรือวิ่งให้กวนใจ
บรรยากาศนั้นเงียบสงบ เหมาะมากสำหรับเดินฟังเสียงคลื่นและสูดอากาศบริสุทธิ์
ทรายชายหาดจะออกสีแดงครับ ไม่ขาวนวล แต่ไม่หยาบ และไม่สกปรกนะครับ
ผมถ่ายภาพน้ำใสๆ มาให้ดูกันชัดๆ
ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปจนสุดหาดทางขวามือ ระยะทางไม่ไกลครับ เดินเล่นคนเดียวได้ ไม่อันตราย
จากที่สังเกตุดูที่นี่มีฟองทะเลเยอะมากทีเดียว มองดูแล้วก็สวยไปอีกแบบเนาะ
ผมเดินย้อนกลับมาทางหน้าหาด โซนที่เรือจอดรับส่ง ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากันเลย
สำหรับผมความสวยงามไม่ได้สำคัญมากนัก แต่ความเงียบสงบต่างหากที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ
ให้ผมชอบทะเลเป็นพิเศษ
โชคดีหน่อยเช้านี้ผมได้เพื่อนใหม่ ที่ค่อนข้างขี้เล่นพอสมควร แต่รู้สึกเหมือนเจ้านี้ยังไม่ตื่นแฮะ
มันหาวตลอดเวลาเลย 55
เฮ้ออ..อยากให้วันเวลาแบบนี้เกิดขึ้นผมทุกวัน มันรู้สึกสบายตัว สบายใจจริงๆ
วันนี้ต้องออกแรงขึ้นถ้ำกันอีกแล้ว เติมพลังกันก่อนก็ดีนะ ว่าไหม
ก่อนไปเที่ยวถ้ำพระยานคร เราไปดูชายหาดทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนครับ
บริเวณนี้เป็นทางลง หากเราเดินข้ามเขามานะครับ และตอนกลับก็ใช้เส้นทางนี้เช่นเดียวกัน
หากเราเดินข้ามเขามา ก็จะมีป้ายบอกทางไปถ้ำพระยานคร และแหลมศาลา
บริเวณนี้จะมีต้นมะพร้าวเยอะเป็นพิเศษ แปลกนะ พอเดินเลยครัวยอดแก้วไป จะไม่มีต้นมะพร้าวเลย มีแต่ต้นสน
โซนนี้จะโล่งโปร่งสบาย และรู้สึกว่าทรายจะเนียนกว่าอีกฝั่งด้วย
บ้านพักโซนนี้จะมี 3 หลังครับ คือ บ้านร่มสน บ้านคูหา และบ้านคฤหาสน์
น่าเสียดายครับ ผมไปถ่ายใกล้ๆ ไม่ได้เนื่องจาก มีคนพักอยู่ แถมเป็นผู้หญิงทั้งหมด เข้าไปถ่ายภาพ
ผมคิดว่าอาจโดนเขวี้ยงหัวแตกได้
บ้านพักทั้ง 3 หลัง ยืนถ่ายจากหน้าครัวยอดแก้วครับ
อันที่จริงผมอยากพัก บ้านร่มสนนะครับ สะดวกดี แถมอยู่ติดกับครัวยอดแก้วซะด้วย
แต่เสียดายว่าจองไม่ทัน แหะๆ
เอาล่ะ ผมคิดว่าได้เวลาไปถ้ำพระยานครกันแล้ว
เอ..แต่พอสายๆ หน่อย ทะเลชักจะสวยแฮะ งั้นไปเดินเก็บภาพทะเลกันก่อนดีกว่า อิอิ
ตั้งแต่เมื่อวานยันวันนี้เช้า ผมอยู่กับทะเลหม่นๆ ตลอด แต่ตอนนี้ก็มีทะเลใสๆ มาให้ชมกันบ้างล่ะ
น้ำทะเลที่ผมเคยบอกว่าใส พอโดดแดดกระทบเข้า ใสปิ๊ง แถมสีก็สวยขึ้นทันตา
ฟ้าใสทะเลสวย แถมแดดก็ไม่ร้อน หายากนะ ส่วนใหญ่ ต้องทนกับร้อนเปรี้ยงๆ ถึงจะเจอทะเลแบบนี้
น่าเสียดายครับ ที่เราสามารถเล่นน้ำได้เพียงแค่บริเวณใกล้ๆ กับที่เรือจอดเท่านั้น เพราะแถวนี้มีคลื่นใต้น้ำเยอะ
ถ้าไม่ติดกับว่าต้องไปเที่ยวถ้ำพระยานคร อยากจะลงเล่นน้ำซะหน่อยนะ น้ำมันใสได้ใจจริงๆ
เอาล่ะได้เวลาขึ้นถ้ำพระยานครกันล่ะ เส้นทางแค่ 480 เมตร เองน้าาาาาาาา
ใครมีโรคประจำต้ว หรือมีปัญหาเรืองเท้า เข่า ขา แนะนำให้หยุดคิดสักนิด ก่อนจะขึ้นนะครับ
เดินขึ้นไปจะมีที่ให้นั่งพักเป็นช่วงๆ ครับ และสิ่งที่ทำให้เราหายเหนื่อยเร็วที่สุดคือ..Smart Phone ครับ
เอาเป็นว่าแต่ละคนไม่เงยหน้ากันเลยล่ะ
หากเราเจอทางลาดลงไปหาถ้ำแบบนี้ แสดงว่าใกล้ถึงแล้วล่ะ
เดินลงมาแล้ว ให้มองย้อนกลับไปนิดนึงครับ เพราะขากลับยังต้องเหนื่อยอีกต่อ อิอิ
แวะอ่านแผนที่สักนิดก็ดีนะ จะได้รู้ว่าตรงไหนที่เราน่าจะเดินไปเยี่ยมชมบ้าง
ถึงแล้วครับเร็วดีไหมล่ะ ของจริง ไม่เร็วแบบนี้นะ ผมบอกไว้ก่อน เพราะตอนนี้ผมกำลังหายใจทางปากอยู่
เป็นธรรมดาครับ สถานที่สวยงาม และมีค่า ย่อมคู่กับการเดินทางที่ลำบากเสมอ
สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำ เมื่อมาถึงถ้ำพระยานครคือ..นั่งพักเหนื่อย ครับ ไม่ไหวจริงๆ หายใจเกือบไม่ทัน
วันนี้ผมมาถึงที่นี่สายไปหน่อย เลยไม่เจอแสงสวยๆ ที่ส่งกระทบ ก็แน่ล่ะมัวแต่เอ้อละเหยอยู่ริมหาด จนลืมเวลา
ข้างๆ กันนั้นจะมีลายพระหัตถ์ จ.ป.ร, ป.ป.ร อยู่ด้วยนะครับ
ดูสิถึงลำบากแค่ไหน พระองค์ยังมาได้ เพราะงั้นแม้เหนื่อยก็ต้องทนกันหน่อยนะ
หินรูปเจดีย์ ธรรมชาตินี่ก็ช่างสรรค์สร้างจริงๆ นะครับ ว่าไหม
เอาล่ะเดินเที่ยว เดินถ่ายภาพ จนหายเหนื่อยล่ะ เรากลับกันเลยดีกว่าครับ
เส้นทางขากลับ อาจจะไม่เหนื่อยเท่าขามา แต่ต้องใช้ความระวังมากกว่าเดิมนะ เพราะทางลาดลง
อาจลื่นได้ง่ายครับ
เฮ้อออ ถึงซะที กลับมาเหนื่อยๆ ขอนั่งพักหน่อยเถอะ อ้อ..ผมลืมไปค่านั่งตัวล่ะ 20 นะ อิอิ
นั่นไงพี่คนขับเรือเค้ายืนรออยู่ล่ะ ได้เวลากลับซะแล้วเหรอเนี่ยยยย
ต้องบอกว่าถูกใจกับชื่อเรือของพี่แกมากเลย แต่ดูจากหน้าตาพี่คนขับเรือแล้ว
น่าจะเปลี่ยนชื่อเรือเป็น “รอมึง” มากกว่า 555
จบล่ะ ทริปเขาสามร้อยยอด 2 วัน 1คืนของผม หวังว่ารีวิวนี้คงจะพอเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบ้างนะครับ ทริปนี้เที่ยวน้อย เพราะเหนื่อยเยอะครับ ส่วนท่านใดสนใจไปเที่ยวปราณบุรีต่อ ก็สามารถติดตามอ่านรีวิวเที่ยวปราณบุรี ของผมก่อนหน้านี้ได้ครับ
การเดินทางไปเขาสามร้อยยอด
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดนั้น เดินทางได้ง่ายมากครับ ขับรถโดยใช้ถนนเพชรเกษม(เส้นลงใต้) พอเลยสี่แยกปราณบุรี ไปหน่อย ก็มีป้ายบอกอย่างชัดเจนครับ หรืออีกเส้นทางนึงก็คือเข้าทางปราณบุรีครับ หลังจากนั้นค่อยขับรถเลียบชายฝั่งมาเรื่อยๆ ก็จะมาออกอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด
สำหรับการเดินทางโดยรถประจำทาง อาจจะต้องนั่งรถตู้ไปลงปราณบุรี แล้วค่อยเหมารถไปสามร้อยยอดครับ ส่วนรถประจำทางที่ผ่านสามร้อยยอดนั้น ต้องขออภัย ผมไม่มีข้อมูลส่วนนี้เลยครับ
ที่พักสามร้อยยอด
ที่พักอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดนั้น เป็นที่พักราคาถูก ที่คุ้มมากๆ ครับ แต่ถ้าให้ดีควรพักกันหลายๆ คน เพราะกลางคืนนั้นค่อนข้างเงียบมาก ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ นอกจะเราจะทำกันเอง เช่น ตั้งวงฟ้อนรำ เอ้ย ตั้งวงดื่ม หรือเล่นเกมส์นับเลขอะไรก็ว่ากันไป
การจองนั้นควรทำการจองเสียแต่เนิ่นๆ ครับ อย่าชะล่าใจเหมือนผม ที่พักเค้าเต็มตลอดนะครับ ผมบอกไว้ก่อน
สำหรับที่พักที่แหลมศาลานั้น หากไปพักไม่เกิน 10 คน ผมแนะนำบ้านร่มสนครับ ราคาอยู่ที่ 1600
หากไปพักเกิน 10 คน แนะนำบ้านคูหา ราคา 2000 และคฤหาสน์ ราคา 2200 เพราะบ้านโซนนี้จะอยู่ใกล้กับ ร้านอาหาร และบรรยากาศจะโปร่งๆ สบายๆ ครับ
ส่วนโซนบ้านแหลมศาลา ราคา 1600 บ้านริมสน บ้านเทียนเขานั้น จะอยู่ในป่าสน ซึงอาจจะดูทึบๆ ไปนิดนึง แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมากครับ
ร้านอาหาร
ร้านอาหารที่หาดแหลมศาลานั้น ไม่ต้องเลือกเลยครับ เพราะมีครัวยอดแก้วร้านเดียว มีของขายทุกอย่างที่จำเป็น ร้านปิด 2ทุ่มนะครับ จะกินจะซื้ออะไรก็รีบๆ หน่อยล่ะกัน
สถานที่ท่องเที่ยวเขาสามร้อยยอด
สถานที่ท่องเที่ยวสามร้อยยอด ต้องบอกว่ามีเยอะนะครับ แต่ผมเองแวะเที่ยวไม่หมด เช่นบึงบัวสามร้อยยอด ถ้ำพระยานคร แหลมศาลา หาดสามพระยา จุดชมวิวเขาแดง ล่องเรือคลองเขาแดง วัดหุบตาโคตร ถ้ำไทร ถ้ำแก้ว และเราสามารถเลยไปเที่ยวปราณบุรีได้เลยครับ เพราะอยู่ติดกัน
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อาจไม่สวยงามเลิศเลอเหมือนทะเลอื่นๆ แต่ความเป็นธรรมชาติของหุบเขาและทะเล ก็เพียงพอที่ทำให้เราไม่ควรมองข้ามสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อีกทั้งยังมีร้านอาหารทะเลสดๆ หลายร้านไว้ค่อยให้ท่านไปลิ้มลอง เช่นร้านยกซด ร้านนี้ก็ชื่อดังใช่เล่น อยู่ทางเข้าถ้ำพระยานครนั่นล่ะ
จริงอยู่ทะเลสามร้อยยอดอาจไม่สะดวก สบาย เหมือน หัวหิน ชะอำ แต่ความสงบ สะอาด และความเป็นธรรมชาติเทียบสามร้อยยอดไม่ได้เลย หากท่านต้องการความครื้นเครงขึ้นมาสักหน่อย ของลองไปพัก หรือเที่ยวบริเวณหาดสามร้อยยอดได้ หาดนี้ มีรีสอร์ท มีบาร์ และร้านอาหารเยอะพอสมควร
หากมีเวลา 1 วัน หรือ 2 วัน 1 คืน ผมอยากให้ลองไปสัมผัสธรรมชาติของที่นี่ดูครับ แล้วท่านจะรู้ว่าทะเลสะอาด สงบ และอากาศบริสุทธิ์ ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวท่านเลย
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง…นายหัว
ติดต่อสอบถามข้อมูลอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
โทรศัพท์: 0 3282 1568, 0 3264 6293 (VoIP),03 2619078
โทรสาร : 0 3282 1568
อีเมล : reserve@dnp.go.th
จองที่พัก: dnp.go.th
อุปกรณ์
กล้องดิจิตอล : Olympus OMD EM5
เลนส์ : Panansonic 14mm/f2.5 , M-zuiko 12-50/f3.5-6.3