จันทบุรี 2วัน 1 คืน ทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์
จันทบุรี จังหวัดนี้มีดีอะไร ถึงทำให้ผมต้องไปเยือนมาแล้วถึง 3 ครั้ง ผมเคยรีวิวจันทบุรีไว้แล้วในทริป จันทบุรี 3วัน 2คืน ซึ่งทริปก่อนนั้นผมได้เที่ยวตะลอนเที่ยวทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมทั้งกินอาหารทะเลสดๆ จากทะเลขลุง อาจมีแหล่งท่องเที่ยวบางที่ที่ผมยังไม่ได้แวะ แต่โดยรวมแล้วผมถือว่าก็ได้เที่ยวจันทบรีเกือบทั่วแล้วล่ะ คราวนี้ผมไปจันทบุรีอีกครั้ง ตั้งใจจะไปเก็บตกแหล่งท่องเที่ยวที่พลาดไปคราวก่อนหรือเปล่า….เปล่าเลยครับ ผมไปจันท์คราวนี้ เป้าหมายผมคือ อาหารทะเลสดๆ ที่ทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์ นั่นเอง
ผมเคยผ่านที่นี่ตอนทริปจันทบุรีคราวก่อน ผมบอกตัวเองไว้เลยว่า คราวหน้าผมต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้ เหตุผลน่ะเหรอ แค่อยากหาที่เงียบๆนอนพักผ่อน และตื่นมาก็กินอาหารทะเลสดๆ แค่นี้แหละ ผมใช้ทางหลวงหมายเลข 3 มุ่งหน้าจังหวัดหวัดตราดครับ ให้สังเกตน้ำตกพลิ้วอยู่ทางซ้าย
เลยน้ำตกพลิ้วไป จะเจอแยกแหลมสิงห์ ให้เลี้ยวขวา และตรงไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นให้มองหาโรงพยาบาลแหลมสิงห์ทางซ้ายมือ เลยโรงพยาบาลไปเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย
จากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆ ครับ ใจเย็นๆ รถน้อยมากไม่ต้องรีบร้อน เราก็จะเจอสามแยกหนองขิ่ม ให้เลี้ยวซ้าย
ซึ่งจะมีป้ายบอกไป ทะเลขวัญสมุทรฯ อยู่เป็นระยะๆ ครับ
ขับกินลมชมวิวไปสักพักเจอสามแยก ตลาดบ้านเขาน้อย ให้เลี้ยวซ้ายไปทางบางชัน
ขับตรงไปเรื่อยๆ เราจะเจอถนนที่เรียกว่าหลายคนคงต้องถอดใจ แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ รถเก๋งวิ่งได้
แค่ต้องขับหยอดหลุมไปตลอดทางแค่นั้นแหละ ขับเบาๆ หน่อยนะครับ ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนเรืองฝุ่น
หยอดหลุมไปเรื่อยๆ นะ ไม่ต้องรีบ อิอิ สักพักเราจะเจอสามแยกนี้ ให้เลี้ยวซ้ายถนนคอนกรีตไปตามป้าย
อย่าเลยล่ะ ทางนั้นไปไหนผมก็ไม่รู้นา
ขับสบายๆ กันประมาณ 3 กิโลเมตรแค่นั้นแหละครับ เราก็ลงหลุมกันต่อ หยอดหลุมไปสักพักเจอสามแยกนี้ให้เลี้ยวขวาขึ้นสะพาน
ใกล้ถึงแล้วล่ะ เลี้ยวขวาครับไปตามป้ายวัดเทพขาหย่าง อีกประมาณ 2 กิโลเมตรเราก็จะเจอ
ทะเลขวัญสมุทรฯ อยู่ขวามือ
เจอสะพานแบบนี้เมื่อไหร่ แสดงว่ามาถึงแล้วครับ ทะเลขวัญสมุทรจะอยู่ก่อนขึ้นสะพานพอดี
ถ้าข้ามสะพานไปก็จะเป็น ขาหย่างโฮมสเตย์ , ปลายจันท์รีสอร์ท และอโลฮ่า ครับ
เอาล่ะเมื่อมาถึงแจ้งชื่อกันเรียบร้อย เราไปดูห้องพักผมก่อนเลย ผมพัก บ้านโกงกาง3
บ้านโกงกาง3 เป็นห้องพักสำหรับ 2 คนครับ หันหน้าออกสู่ทะเล
ผมมองว่าห้องนี้เหมาะที่สุดสำหรับคนที่อยากได้ความส่วนตัวแบบฉองต่อฉองนะ
เนื่องจากมีพายุฤดูร้อน ฝนเลยกำลังตั้งท่าจะตก บรรยากาศเลยดูหม่นๆ ไปหน่อย
แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอยู่แล้วครับ เพราะทริปนี้ผมเน้นมากินและนอนเท่านั้น
ยิ่งฝนตกยิ่งดีใหญ่ จะได้นอนฉะบาย
ภายในห้องพักนั้น ที่นอนจะเป็นแบบนอนพื้นตามสไตล์โฮมสเตย์ล่ะครับ เรียบง่าย แบบนี้แหละโดนใจผม
ถึงแม้จะไม่มีแอร์ ก็ไม่มีคำว่าร้อนครับ ลมพัดทั้งคืน แถมมีพัดลมตัวใหญ่ให้อีกต่างหาก
ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะอาดหรือกลิ่นอับเลยครับ ห้องเค้าโปร่ง แสงเข้าถึงทั่วห้อง
ห้องน้ำในตัวทุกห้องครับ สะอาดและอุปกรณ์ครบ
มีผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผมให้ด้วย มันโดนใจคนแบบผมจริงๆ เพราะไม่เคยพกอะไรไปเลย 55+
ขับรถมาไกล แถมบรรยากาศครึ้ม มันก็ชักง่วงแฮะ แต่ยังนอนมิได้ เพราะมื้อเที่ยงรออยู่
เนื่องจากผมมาเร็วไปหน่อย เลยตั้งนั่งรอ กินลมชมสะพานไปก่อนน่ะสิ หิ๊วหิวอ่ะ
แต่ไอ้คนอย่างผม อยู่นิ่งไม่ค่อยเป็นนี่สิ งั้นป่ะ ไปตระเวนดูรอบๆ หน่อย
เอ๊ะ บ้านหลังนี้ใหญ่ดีจัง แม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่พอดี ผมเลยแอบเนียนเข้าไปถ่ายภาพซะเลย
บ้านพักหลังนี้ชื่อ “บ้านแฝด” ครับ มีแอร์ทั้งสองห้อง และมีตู้เย็นกลางลานบ้านเลย เหมาะสำหรับพักหลายคน
ในห้องพักนอกจากมีเตียงขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังมีเครื่องนอนเสริมอีกเพียบนะ เพื่อสำหรับปูนอนพื้นกันนี่แหละ
ในส่วนของห้องน้ำจะมีอยู่ในตัวห้องทั้งสองห้องเลยครับ
พื้นห้องกว้างขวางเหมาะกับการตั้งวง เอ๊ย เหมาะกับการนอนครับ
ตรงลานบ้านมีตู้เย็นไว้คอยบริการ โดนใจขาเมาเขาล่ะ
มีระเบียงเพิ่งสร้างใหม่ ยื่นลงไปในทะเลป่าโกงกางด้วย
อีกห้องนึงก็มีลักษณะเหมือนกันครับ เตียงใหญ่ ห้องกว้างนอนได้หลายคนเช่นเดียวกัน
ส่วนถ้าฝนตก ก็ไม่ตกกังวล เค้าเตรียมผ้าใบกันสาดไว้ให้พร้อม เรียกว่าสังสรรค์กันได้ราบรื่น
ส่วนหลังถัดไปเป็นหลังสุดท้ายของโซนนี้ ชื่อบ้านปูรวม มีหัองพัก 2 ห้อง พักได้หลายคน
ผมไม่ได้เข้าไปถ่ายภาพนะ เพราะเค้ายังทำความสะอาดอยู่ แต่วิวดีเลยล่ะ หลังนี้
ป่ะ เราข้ามไปดูห้องพักอีกโซนนึง จะมีทั้งบ้านพักสำหรับ 2 ท่าน และหลายท่าน
หลังนี้ชื่อบ้านไม้ไผ่ เป็นบ้านพักยุคแรกๆ ของที่นี่ มีจำนวน 2 หลังพักได้ 2 ท่านครับ
ถัดไปเป็นบ้าน ปู1 ปู2 และปลา1 ปลา2 ลักษณะห้องจะเหมือนกันครับ พักได้ 5 คนขึ้นไป
เป็นบ้านไม้ทั้งหลังกว้างและสะอาด บ้านทุกหลังของที่นี่หันหน้าออกทะเลหมดทุกหลังนะครับ
ฝนกำลังมาครับ พอดีกับเค้าเรียกให้ไปกินมื้อเที่ยง แหมจังหวะช่างเหมาะเจาะจริงๆ
กลางคืนเค้ามีคาราโอเกะให้ร้องฟรีนะครับ กินกันอิ่มแล้วก็เชิญแหกปาก เอ๊ย ร้องเพลงต่อกันได้เลย
โอ้อนิจจัง ฝนดันตกหนัก เย็นนี้ก็อดนั่งเรือไปดูเหยี่ยวแดง ค่อนข้างแน่แล้วล่ะ
มาดูจานแรกของมื้อเที่ยงกันก่อนเลย ปูผัดผงกะหรี รู้ๆ กันอยู่ว่ากลิ่นมันหอมขนาดไหน
ผมชอบตรงที่เค้าเลือกใช้ปูตัวไม่ใหญ่มาก เลยทำให้กินง่าย พอดีคำ
จานนี้เป็นเนื้อปลาชุปแป้งตอน พอทานแล้ว บอกได้เลยว่าอร่อยครับ รสชาดออกเปรี้ยวนิดๆ
เลยทำให้ไม่เอียน กินเพลินเลยล่ะ
เมนูนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองจันท์เค้าล่ะ นั่นก็คือ “ต้มหมูใบชะมวง” รสชาดออกไปทางหวาน
แต่มีความเปรี้ยวของใบชะมวงคอยกำกับ เลยทำให้เนื้อหมูนุ่มๆ นี้ มีรสกลมกล่อมเลยทีเดียวล่ะ
นอกจากเมนูหอยและปูแล้ว อีกเมนูหนึ่งที่ผมชอบคือทะเลผัดฉ่า
ผัดฉ่าของที่นี่ต้องบอกเลยว่า จัดจ้านได้ใจ จนต้องสั่งอีกจาน แหะๆ
ส่วน กุ้งผัดถั่วลันเตา จานนี้ต้องบอกว่า กุ้งจะตัวใหญ่ไปไหน แต่ก็นะกุ้งสดๆ เนี่ย
ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่มีคำว่ากลิ่นคาวมากวนใจเลยล่ะ
เอาล่ะ ตอนนี้กระเพาะอาหารผมมันเริ่มไม่ค่อยพอใจล่ะ เราเริ่มกันเลยดีกว่า
(ปํญหาคือจะกินหมดหรือเปล่านี่แหละ)
หลังจากจัดการกับมื้อเที่ยง(ไม่หมด)แล้ว มันก็เป็นไปตามคอนเซ็ปทริปนี้ครับ
นั่นคือแค่มานั่งรับลมหน้าห้อง หนังตาก็จะปิดแล้วล่ะ ก็นะอิ่มแบบนี้ อากาศแบบนี้จะเหลือเหรอ ..คร่อกก
ผมตื่นมาอีกทีก็เย็นเลยล่ะ พี่ท่านนี้แกหาปลาตั้งแต่ก่อนผมนอนยันตื่นเลย
โชคดีที่ยังตืนทันได้ดูพระอาทิตย์ตก ฟ้าหลังฝนเนี่ย มันสวยเสมอเนาะ
บ้านพักที่เห็นในภาพนับจากซ้ายไปขวา ก้อคือ บ้านไผ่ 1,2 บ้านปู1,2 บ้านปลา1,2
และหลังใหญ่สุดท้ายกำลังก่อสร้างครับ
ตามโปรแกรมแล้วตอนเย็น เราสามารถนั่งเรือไปชมเหยี่ยวแดงได้นะครับ แต่ทว่าวันนี้ฝนตก
เลยไม่ค่อยจะมีเหยี่ยวเท่าไหร่ ผมเลยไม่ไป เดินเล่นชิวๆ รอกินมื้อเย็นดีกว่า(กินอีกล่ะ)
แต่ต้องบอกว่าที่นี่มืดเร็วมากครับ เผลอนิดเดียวผมถ่ายภาพแสงตอนเย็นไม่ทันซะแล้ว
เอาล่ะครับมื้อเย็น เค้านัดทุ่มนึงนี่ก็ได้เวลาล่ะ ป่ะ เราไปฟัดกับมื้อเย็นกันต่อ
มื้อค่ำนี่เรียกว่าเป็นเมนูถูกปากผมทั้งนั้นเลย เริ่มด้วยหอยเชลล์เผา ตัวนึงพอดีคำครับ
ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลย สดมากๆ
หอยนางรมเค้าสดแบบ ไม่ต้องใช้เครืองเคียงหรือน้ำจิ้มแต่อย่างใด อยากให้ลองทานสดๆ กันดูนะครับ
ถ้าหอยสดนี่จะอร่อยมากๆ
ผมเป็นคนที่กินกุ้งแช่น้ำปลาไม่สดเมื่อไหร่ล่ะก็ท้องเสียทุกที เพราะฉะนั้นถ้าของเค้าไม่สดจริงๆ
ผมไม่สั่งเบิ้ลสองแน่ๆ แหะๆ
หมึกย่างของที่นี่ไม่ได้มาเป็นตัวนะ เค้าหั่นเป็นชิ้นบางๆ พอดีคำ แถมเสิร์ฟแบบร้อนๆ ด้วยนะ
ต้มยำปลาน้ำใส เป็นอีกเมนูนึงที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ รสจี๊ดๆ ช่วยแก้เลี่ยนได้ดีแท้ๆเลยล่ะ
เอาล่ะมาถึงเมนูสุดโปรดของผม ไม่ว่าจะอิ่มแค่ไหน รับประกันว่าเมนูนี้ไม่เคยเหลือ 55
เพื่อความสดและสะอาด ที่นี่เค้าไม่ได้แกะปูไว้ให้นะครับ แต่เค้ามีค้อนเล็กๆ ให้สำหรับเทาะกระดองปู
ตัวผมนั้นไม่มีปัญหาเรืองนี้อยู่แล้ว ยิ่งปูสดยิ่งแกะง่ายครับ แกะเสร็จแล้วก็ได้มาหน้าตาแบบนี้
ผมฟัดกับปูยังไม่ทันเสร็จเลย เค้าก็เสิร์ฟผลไม้ซะล่ะ งั้นกินคู่กันไปเลยล่ะกัน
สลับกันไปกับเมนูอื่นบ้าง กินอย่างเดียวเดี๋ยวจะเอียนกันไปซะก่อน
อ๊ะๆ เราจะลืมเมนูเด็ดอีกย่างได้เยี่ยงไร นี่เลยกุ้งเผาสดๆ ตัวเป้งๆ เนื้อแน่ๆ ตัวเดียวรับรองอิ่มเลยล่ะ
เมนูโดยรวมๆ ของผมมื้อนี้ก็ประมาณนี้แหละ กินให้ท้องแตกตายกันไปข้างนึงเลย (อยากกินดีนัก)
เชื่อหรือเปล่าครับว่า โต๊ะอื่นเค้ากินกันเสร็จหมดแล้ว มีผมนี่แหละนั่งเทาะปูเสียงดังโป๊กๆ อยู่โต๊ะเดียว 55
คนที่กินเสร็จแล้ว เค้าไปปล่อยโคมกันสนุกสนาน ผมเลยแอบพักยกไปถ่ายภาพหน่อย
มากันหลายคนก็ร่วมกันอธิษฐาน ร่วมกันปล่อยเนาะ คนเดียวแบบผมก็ได้แต่มองเค้าแหละ
โคมที่นี่ปล่อยฟรีนะครับไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นบริการที่ทางโฮมสเตย์เค้าจัดให้
หลังจากนั้นท่านใดจะร้องคาราโอเกะก็สามารถร้องได้กันยาวๆ ทีเดียว ส่วนผมก็กลับไปนอนก่อนล่ะกัน
พรุ่งนี้เช้าว่ากันอีกที
——————-
ตื่นเช้าวันใหม่ อากาศดีแท้ ลมเย็นๆ พัดแต่เช้าเลย โชคดีจริงๆ ครับที่ได้พักบ้านโกงกาง3
ตอนเช้าน้ำยังไม่ลงเท่าไหร่ นั่งรับลม ชมสะพาน ดูปลาว่ายไปมาหน้าบ้านพัก กันเลยล่ะ
ว่าแล้วก็เดินออกไปสูดอากาศกันหน่อย นี่คือบ้านพักผมถ่ายจากจุดกางเต๊นท์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
ที่นี่บริการสำหรับกางเต๊นท์ครับ ราคาก็เหมาอาหาร 3 มื้อเหมือนกัน แต่คิดว่าถูกว่าแน่นอน
มาจนจะกลับอยู่ล่ะ ยังไม่ได้ถ่ายป้ายทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์เลย นี่เลยครับพร้อมเบอร์โทร
เช้าๆ แบบนี้อยากให้ตื่นกันหน่อยนะครับ ขอบอกว่าอากาศดีมาก ช่วงที่ผมไปนี่มีลมเย็นๆ พัดตลอดเลย
หลังนี้เป็นบ้านโกงกาง1 เป็นบ้านพักที่อยู่ติดกับตีนสะพานเลย แต่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวดีครับ
เดินเล่นบนสะพาน ถ่ายย้อนกลับมาให้เห็นตัวโฮมสเตย์กันเต็มๆ
นับจากขวาไปซ้าย บ้านโกงกาง1 >โกงกาง2 >โรงอาหาร> ที่กางเต๊นท์(สีฟ้าๆน่ะ) > โกงกาง3 (ที่พักผม)
ส่วนในพุ่มไม้นั่น จะเป็น บ้านแฝดและ บ้านปูรวมครับ
หลังนี้เป็นบ้านโกงกาง 2 ซึ่งจะอยู่ติดกับโรงอาหาร
มื้อเช้าจะเริ่มที่ 07.00น. มีชากาแฟ โอวัลติน ขนมปัง กินได้เต็มที่เลยครับ
พร้อมด้วยข้าวต้มทะเล ทะเลจริงๆ ครับ ในหม้อมีแต่กุ้ง ปูปลา เต็มไปหมด กินให้เบื่อกันไปข้างนึงเลย
อ้อ…มีไข่ดาวด้วยนะครับ สั่งได้เลยจะเอาดิบสุกขนาดไหน
ยังครับเพ่!! ยังไม่หมด ยังมีเมนูเด็ดเมืองจันท์อีกอย่าง ใช่เลย..”เส้นจันท์ผัดปู ”
ผมว่าน่าจะเป็น “ปูผัดเส้นจันท์” มากกว่ามั้งเนี่ย ก็ปูมันเยอะซะขนาดนี้เนาะ อิอิ
อิ่มกันหรือยัง แต่ก็ยังมีเมนูตบท้ายอีกนะ นั่นคือทับทิมกรอบ เม็ดใหญ่ๆ สีสดๆ
โทษทีเถอะครับ ขากลับผมจะหลับคาพวงมาลัยรถไหมเนี่ย อิ่มซะเหลือเกิน
แล้วใครที่อยากจะเลี้ยงปลาก็สามารถโยนขนมปังให้เจ้าปลาพวกนี้ได้นะครับ มันมารอทุกเช้าเลยป้าเค้าบอก
เอาล่ะครับทริปจันทบุรี 2 วัน 1 คืนของผมก็จบลงด้วยเท่านี้ ทริปนี้เน้นกินกะนอนอย่างเดียวครับ ไม่ได้ออกไปไหนเลย อันที่จริงค่ำๆ หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ เราสามารถขับรถข้ามสะพานไปยังหมู่บ้านชาวประมง เพื่อไปหาซื้อปลา ปู หมึก สดๆ มาปิ้งย่างกันได้นะครับ โดยข้ามสะพานไปประมาณ 2 กิโลเมตรเอง ถ้าเป็นไปได้ตอนกลางวันก็ขับรถไปสำรวจทางไว้ก่อนก็ดีครับ
ผมแนะนำให้ดูรายละเอียดทริป รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวจันทบุรี จากทริปจันทบุรี 3วัน 2คืน ของผมก่อนหน้านี้ประกอบครับ จะทำให้ทริปจันทบุรีของท่านมีความสมบูรณ์และครบครันยิ่งขึ้น
การเดินทางไปทะเลขวัญสมุทรโอมเสตย์
ทะเลขวัญสมุทร โฮมสเตย์นั้น อยู่โซนเดียวกับ ขาหย่างโฮมสเตย์ ปลายจันท์รีสอร์ท และอโลฮ่า ดังนั้นการเดินทางก็ใช้เส้นทางเดียวกัน มาจากกรุงเทพผมใช้มอเตอร์เวย์ พอเลยด่านพานทอง ให้เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านบึง วิ่งตรงยาวเจอสามแยกใหญ่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 ทีนี้ก็วิ่งกันยาวๆ มุ่งหน้าไปจันทบุรี สังเกตน้ำตกพลิ้วอยู่ทางซ้ายมือ หลังจากนั้นก็ใช้เส้นทางตามที่ผมได้กล่าวไว้ตอนแรกของรีวิวเลยครับ
อาหารของทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์
แน่นอนครับที่นี่คงหนีไม่พ้นอาหารทะเลสดๆ ที่เสริฟกันแบบไม่อั้น วัตถุดิบก็น้ำมาจากทะเลในพื้นที่นี่แหละครับ ผมคอนเฟิร์มว่าของเค้าสดจริงๆ ใครได้ทานแล้วจะรู้เลยว่ามันแตกต่างกับอาหารทะเลที่มีขายกันในท้องตลาด ที่สำคัญแต่ละเมนูไม่รู้จะเยอะไปไหน ผมว่าผมกินอาหารทะเลได้เยอะแล้วนะ แต่เอาเข้าจริงๆ เหลือทุกจานทุกเมนูเลย แถมถ้ายังไม่อิ่มก็ขอเพิ่มได้ แต่บอกตรงๆว่าน้อยคนที่จะขอเพิ่ม
การบริการของทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์
ที่ทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์จะบริการแบบกันเองครับ ป้าแม่ครัวนั้นคุยกับแขกเหมือนคุยกับลูกกับหลาน หรือใครจะติชมรสชาดอาหาร ป้าก็บอกว่าติชมกันตรงๆ ได้เลย ส่วนพนักงานท่านอื่นๆ ก็คอยดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงแม้จะมีลูกค้าเต็มทุกโต๊ะก็เถอะ ผมชอบที่จะพักโฮมสเตย์ก็ตรงนี้แหละครับ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะเป็นคนลงมาดูแลเอง ทำให้บรรยากาศมันไม่เหมือนผู้ค้ากับลูกค้า แต่เหมือนเพื่อน เหมือนญาตกันซะมากกว่า
ที่พักทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์
รายละเอียดที่พักก็ตามที่รีวิวไว้แล้ว แต่จุดเด่นของที่นี่นั้น ผมมองว่าได้เปรียบในเรืองความสงบครับ ทำให้ผู้ที่มาพักได้ความเป็นส่วนตัว อีกทั้งห้องพักทุกห้องนั้นติดทะเลหมด ทำให้ได้ใกล้ชิดทะเลกันมากขึ้น แต่โฮมสเตย์แนวนี้ก็หลีกหนีเสียงดังของการสังสรรค์เฮฮาไม่ได้ว่าไหม ดังนั้นที่นี่เค้าสร้างห้องพักให้ห่างกันพอประมาณ ซึ่งทำให้ไม่ได้รับเสียงรบกวน ทำให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ แต่คุณเชื่อผมเถอะต่อให้สังสรรค์กันนานแค่ไหน แต่เจอบรรยากาศของทะเลขวัญสมุทรเข้าไป แป๊บเดียวก็หลับหมดแล้วล่ะผมว่านะ
หลายคนอาจมองว่า ทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์อยู่ติดถนนอีกทั้งติดสะพาน จะมีเสียงรถดังตลอดทั้งคืนหรือเปล่า ขอบอกเลยครับ ว่าแทบจะไม่มีรถวิ่งเลยทีเดียว และคันที่วิ่งก็ไม่มีทางที่จะวิ่งเร็วได้ ด้วยข้อจำกัดทางสภาพถนนที่เห็นๆ กันอยู่
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์
แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ทะเลขวัญสมุทรฯ ก็คงเป็นหมู่บ้านชาวประมง และจุดชมเหยี่ยวแดงครับ ซึ่งทางโฮมสเตย์เองก็มีบริการนี้อยู่แล้วเราสามารถสอบถามโดยตรงได้เลย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังวัดจันทบุรีนั่นแหละครับ เราสามารถขับรถไปเที่ยวต่อได้เลยหลังจากออกจากทะเลขวัญสมุทรโฮมสเตย์ ซึ่งสามารถดูเพิ่มได้จากทริปจันทบุรี 3 วัน 2 คืน ที่ผมได้รีวิวไว้ก่อนหน้านี้
ติดต่อสอบถามห้องพักและรายละเอียดที่
Facebook: https://www.facebook.com/kwansamut
Tel: 0819493251, 0879423892, 0806351807
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณมากมาย ขอบคุณอย่างแรง นายหัว
อุปกรณ์:
กล้องดิจิตอล : Olympus OMD EM5
เลนส์ : zuiko 12-50/f3.5-6.3