สัมภาษณ์ naiHua

เที่ยวอุทัยธานีและอันซีนไทยแลนด์ที่หาได้ยากของโลกกับบล็อกเกอร์นายหัวเด่น

“ผมถามตัวเองว่า จังหวัดไหนที่ไม่มีคนพูดถึง” จากการตั้งคำถาม เพื่อค้นหาจังหวัดที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวไทย นำพาคุณเด่น บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวคนดัง เจ้าของเว็บเว็บไซต์shareview.in.thnaihua.net และเพจเฟสบุ๊ค นายหัวเด่น มาพบกับความอันซีนแบบสุดๆ ที่จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดทางผ่านเล็กๆ  ที่พูดชื่อแล้ว มีแต่คนตั้งคำถามว่า ที่นี่มีอะไรน่าเที่ยว เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner ขาอาสาพาคุณมาไขคำตอบ แล้วจะพบว่าอุทัยธานี มีอะไรดีๆ มากกว่าที่คุณคิด

แนะนำตัวเอง และเว็บไซต์ทั้งสองซักนิด
ผมก็เป็นแค่นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ชอบเที่ยว และชอบเขียนเรื่องราวระหว่างเที่ยวลงในสมุดจดเป็นข้อความสั้นๆ พอเทคโนโลยีมากขึ้นมีกล้องดิจิตอล ก็เริ่มเล่นกล้องถ่ายทอดเรื่องราวผ่านรูปภาพ ส่วนชื่อ “นายหัวเด่น” มีที่มาจากคำว่า “นายหัว” มันสื่อถึงความเป็นคนใต้ในตัว ทางใต้จะใช้เรียกคนที่เป็นผู้นำ เรียกพ่อแม่ เรียกหัวหน้า ส่วนผม การใช้นายหัวเด่น สื่อถึงการเป็นผู้นำตัวเอง อะไรประมาณนี้ และเด่น คือ ชื่อเล่นของผม ก่อนมาทำเว็บทั้งสอง ผมเคยเป็นช่างภาพ และมาค้นพบว่าเราไม่มีความสุขกับการถ่ายภาพแล้ว เพราะมันต้องทำงานกับคนเยอะมาก และคนเรามันซับซ้อน ชอบมั่งไม่ชอบมั่ง และมาพบตัวเองว่า เป็นคนชอบเขียนตั้งแต่เด็ก ชอบเล่าเรื่อง เลยมาเน้นที่การถ่ายภาพและเล่าเรื่องตามสไตล์ตัวเอง เขียนบล็อกบ้าง ทำเว็บบ้าง ไว้เพื่อเก็บเรื่องราวส่วนตัว และแชร์ให้คนอื่นได้รู้ด้วย นั่นคือ ที่มาของการทำเว็บ shareview.inth  และ naihua.net ตามลำดับ

ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวของนายหัวเด่นเป็นอย่างไร
แนวสไตล์ของผมจะเป็นการท่องเที่ยวแนวดิบๆ ซะมากกว่า ผมชอบไปในที่ที่คนยังไม่ไป ยังไม่เป็นกระแส หรือคนส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีอะไร ผมจะชอบไปที่พวกนี้มาก ผมเน้นความสุขที่ได้รับจากการไปเที่ยวมากกว่าแค่การไปเก็บภาพถ่าย ผมเที่ยวได้ทุกรูปแบบ แบกเป้ นอนวัด นอนอุทยาน หรือจะแบบหรูหรา รีสอร์ท โรงแรม เที่ยวกลุ่มเพื่อน เที่ยวได้หมด แต่ที่ผมถนัดและชอบมากที่สุด คือเที่ยวคนเดียว เพราะผมเป็นคนที่คิดอะไรจะทำเลย บางทีตอนเย็นนั่งคิดอยู่ พอสองทุ่มผมออกเดินทางแล้ว ไม่มีการวางแพลนล่วงหน้า ผมแค่ไปสถานีรถก่อน บางทีผมไม่ได้เอารถไปเอง อยากเดินทางรถทัวร์ ผมก็ไปหมอชิตเลย ไปตามความรู้สึก และการเล่าเรื่องก็เล่าในแบบของตัวเอง เป็นวลีประโยคในแบบของผม เสริมความคิดตัวเองเข้าไปนิดหน่อย ไม่ได้เน้นเป็นเชิงพาณิชย์หรือเชิงบทความมากเกินไป เหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง เหมือนเป็นบันทึกว่าคิดยังไงกับสถานที่นี้ คิดยังไงกับการกระทำของนักท่องเที่ยวที่พบเจอกับผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลที่ตรงนี้มากกว่า

จากที่เคยท่องเที่ยวมา ประทับใจจังหวัดไหนเป็นพิเศษ
จังหวัดที่ผมคิดว่า มันเป็นพิเศษจริงๆ สำหรับผม คือ จังหวัดอุทัยธานี มันเป็นจังหวัดทางผ่านเวลาคนขึ้นเหนือ จะขึ้นชื่อแค่ประเพณีตักบาตรเทโวกับวัดท่าซุง คนส่วนใหญ่มักถามว่า อุทัยฯ มีอะไร และมองว่าไม่น่าสนใจ แต่ผมชอบไปสถานที่ที่ตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่คิด ถ้าคนบอกว่าอุทัยไม่มีอะไร ผมก็จะไปให้ดูว่ามันมีอะไร ประมาณนี้ ตอนผมไปตระเวนเที่ยวที่อุทัยฯ ก็ตั้งต้นเที่ยวที่วัดท่าซุง คนส่วนใหญ่มักจะไปแต่ที่ตรงนั้น ไปเที่ยวในเมือง แต่ที่จริงอุทัยมีที่ท่องเที่ยวมากกว่านั้น อยู่ที่อำเภอบ้านไร่ มีเยอะมาก อุทัยธานีจะเป็นจังหวัดที่ดิบๆ ดิบทางวัฒนธรรม ดิบทางธรรมชาติ ที่สำคัญ อยู่ติดกับห้วยขาแข้ง แต่คนมักไม่ค่อยไป พอคนไม่ไป นักท่องเที่ยวก็เข้าไปไม่ถึง ไม่มีนักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ขายก็ไม่มี สิ่งก็สร้างก็ไม่มี เพราะฉะนั้นมันจะดิบจริงๆ ดิบมากๆ แต่มันก็จะทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ และความเป็นท้องถิ่นอย่างแท้จริง ผมเคยทำรีวิวไว้ ถ้าเสิร์ชก็จะเจอลำดับต้นๆ เลย

เริ่มต้นไปเที่ยวอุทัยธานีได้อย่างไร
ผมเจออุทัยฯ เพราะผมหา ผมถามตัวเองว่า “จังหวัดไหนที่ไม่มีคนพูดถึง เสิร์ชในอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยมีข้อมูล ไม่มีรีวิวในพันทิป ไม่ค่อยมีการรีวิวของบล็อกเกอร์” คือ ผมต้องการไปในสถานที่ที่ตรงข้ามกับที่คนมักไป สถานที่ดังๆ ผมเฉยๆ ผมอยากไปในสถานที่ที่คนไม่พูดถึง ผมอยากรู้ว่า ทำไมคนไม่พูดถึง แล้วก็เจออุทัยธานี และได้พบว่า จริงๆ แล้วอุทัยฯ มีอะไรบ้าง ที่เที่ยวอันซีนที่ผมไปเจอ ไม่ได้มาจากการเสิร์ชกูเกิ้ลนะ ผมเจอแค่วัดท่าซุงกับห้วยขาแข้ง แค่นั้นเอง และผมก็สงสัยว่า ทำไมมันมีแค่นั้น ผมไม่เชื่อ ก็เลยอยากจะไปเที่ยว และผมก็ได้เจอ

ที่เที่ยวหลักๆ ในอุทัยธานีที่เป็นไฮไลท์มีที่ไหนบ้าง
ที่อุทัยฯ ถ้าเป็นที่เที่ยวในเมือง ก็จะมี วัดท่าซุง วัดโบสถ์ ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา แต่ถ้าออกไปนอกเมือง ที่อำเภอบ้านไร่ ก็จะมีที่เที่ยวอีกแยะที่คนยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ อย่างวัดถ้ำเขาวง ถ้ำพุหวาย น้ำพุร้อนสมอทอง วัดผาทั่ง หุบป่าตาด และก็อุทยานห้วยขาแข้ง

แต่ละที่มีไฮไลท์ความพิเศษอย่างไร
อย่างวัดท่าซุง เป็นที่รู้กันว่าไฮไลท์ คือปราสาททองคำ

วัดโบสถ์ วันในรัชกาลที่ 5 เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ สถาปัตยกรรมก็เก่าแก่ด้วย ไม่ค่อยมีคน มีพระเพียง 2 รูปเท่านั้น อยู่ริมแม่น้ำสะแกรกรังบรรยากาศดีมากๆ

อุทัยธานี
ประสาททองคำ วัดท่าซุงอุทัยธานี

อุทัยธานี
ภาพภายในปราสาททองคำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
อุทัยธานี
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา เป็นถนนคนเดินของอุทัยฯ เป็นถนนคนเดินจริงๆ ของที่ขายก็พื้นบ้านจริงๆ เป็นถนนคนเดินของแท้ ต้องลองไปเดินแล้วจะรู้

วัดถ้ำเขาวง ถูกจัดว่าเป็นอันซีนด้วยนะครับ เพราะเป็นเรือนไทยทั้งหลังและอยู่ติดริมภูเขา ทั้งวัดเป็นไม้หมดทั้งหลัง สวยงาม เงียบสงบ และที่นี่ก็เป็นจุดขายของอำเภอบ้านไร่ด้วย

อุทัยธานี
วัดถ้ำเขาวง จ.อุทัยธานี

วัดผาทั่ง อ.บ้านไร่ จะเป็นวัดที่ผมแปลกใจมาก เพราะไม่ว่าจะวันสำคัญทางศาสนาอะไรก็แล้วแต่ ที่ผมไป ผมจะเจอแต่หลวงพ่อกับเณร ไปกี่ครั้งก็เจอแต่หลวงพ่อกับเณรไม่เคยเจอคนไปวัดเลย เพราะคนส่วนใหญ่จะไปแต่วัดท่าซุงกัน ถ้ามองหาวัดสำหรับปฏิบัติธรรม ผมแนะนำที่นี่ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมมากๆ และอยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเขาวงด้วย

ที่เที่ยวสุด Unseen ในความคิดของนายหัวคือที่ไหน
หุบป่าตาด เป็นหุบป่าตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เป็นสถานที่อันซีนไทยแลนด์ด้วย แล้วก็เป็นการค้นพบ 1 ใน 10 ของโลก ที่นี่เป็นหุบป่าที่โดนภูเขาล้อมไว้ คืออยู่ในภูเขาเลย และเข้าออกได้ทางเดียว คือ ทางยอดเขา ดังนั้นมันเลยไม่มีคนเข้าไปเห็น นอกจากนกและสัตว์ที่ไต่ขึ้นไปที่สูงได้ บังเอิญว่ามีพระธุดงค์ไปพบเข้า และน้ำมันก็เซาะหิน เลยทำให้ได้เข้าไปเจอ ข้างในหุบป่าตาดจะมีพวกพันธุ์ไม้เก่าแก่ที่หายาก สัตว์ที่หายาก เช่น กิ้งกือมังกรสีชมพู เป็นสัตว์ที่หาได้ที่เดียวในโลกที่ประเทศไทย ททท. ก็เลยเข้าไปทำเป็นอันซีนไทยแลนด์ พอเข้าไปภายในหุบป่าตาดจะได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคไดโนเสาร์เลยล่ะ มีต้นไม้อายุเป็นพันปีอยู่เยอะแยะมากมาย มีความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ สวยงาม

หุบป่าตาด
หุบป่าตาด จ.อุทัยธานี

อีกที่ก็ถ้ำพุหวาย เป็นถ้ำที่อยู่ในป่า แล้วพระธุดงค์ไปเจออีกเหมือนกัน เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่เป็นอุทยาน แต่ยังไม่ได้เปิดเป็นทางการ ถ้าใครจะไปเที่ยวเขาก็เปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวได้ ที่นี่ยังไม่ดังและเป็นกระแสเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่เขาจะไม่ให้ใช้ไฟฟ้าในถ้ำเลย เพราะความร้อนจากแสงสว่างจะทำให้ถ้ำตาย คือ จะไม่เกิดหินงอกหินย้อยอีกต่อไป กลายเป็นถ้ำทั่วๆ ไปเหมือนที่อื่นๆ ที่ถ้ำพุหวาย หินจะงอกจะย้อยขึ้นทุกวัน การจะเข้าไปเที่ยว เราต้องติดต่ออุทยานและให้เจ้าหน้าที่นำเข้าไป อาจจะต้องขึ้นเขานิดหน่อย แต่ก็ไม่เหนื่อยมาก เดินได้สบายๆ และต้องใช้ไฟฉายอย่างเดียว เข้าไปแล้วจะพบว่าสวยงามมากครับ จากที่ผมเคยไปถ้ำมา ที่นี่สวยที่สุด แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้จัก ข้างในมีหินเยอะแยะ หินน้ำตก หินหัวช้าง หินสวยๆ เต็มไปหมด

ถ้ำพุหวาย
ถ้ำพุหวาย จ.อุทัยธานี

ขอคำแนะนำหากอยากเที่ยวตามรอยนายหัว
ด้วยความที่จังหวัดอุทัยมันไม่ได้กว้างมาก เที่ยว 2 วัน 1 คืนก็โอเคแล้ว วันแรกผมแนะนำให้ขับรถเข้าตัวเมืองอุทัยธานีก่อน เริ่มต้นเที่ยวที่วัดท่าซุง ไปต่อที่วัดโบสถ์ และเที่ยวในเมือง ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้พักในเมือง อาจจะเลือกที่พัก ที่ติดแม่น้ำสะแกรกรัง เพราะตอนเย็นจะได้ซึมซับบรรยากาศริมน้ำ และถ้านอนค้างในคืนวันเสาร์ก็จะได้ไปเดินเที่ยวถนนคนเดินของอุทัยฯ ที่ตรอกโรงยา นอนในตัวเมืองก็จะได้เดินเที่ยวที่ตรงนี้ ในหนึ่งวันนี่เที่ยวได้ครบหมดเลย เพราะมันอยู่ติดกันหมด ไม่ต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอ แค่ขับรถมาให้ถึงวัดท่าซุงก็พอ แล้วจะเจอป้ายบอกทางละเอียดยิบ เรื่องอาหารการกิน ก็กินตามร้านเรือนแพได้เลย มีหลายร้าน พออีกวันก็ขับรถมุ่งตรงไปยังอำเภอบ้านไร่ แล้วก็ตระเวนเที่ยวได้เลย เริ่มตั้งแต่ หุบป่าตาด ถ้ำพุหวาย วัดถ้ำเขาวง บ่อน้ำพุร้อนสมอทอง และถ้ามีเวลาเหลือ ก็อาจจะเลยไปดูบ้านของสืบ นาคะเสถียร ที่อุทยานห้วยขาแข้งก็ได้ อยู่ไม่ไกลมากจาก อ. บ้านไร่ ถ้าเที่ยวตามที่ผมบอกนี้ จะเที่ยวเป็นวงกลม คือ เข้าเมืองก่อน แล้วก็เข้าบ้านไร่ แล้วก็ตีรถกลับกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางด่านช้าง สุพรรณ ก็เข้ากรุงเทพได้เลย ไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา เส้นทางท่องเที่ยวสามารถสลับได้ด้วย เช่น เราอาจขับรถจากกรุงเทพไปเส้นสุพรรณบุรี ด่านช้าง เพื่อไปบ้านไร่ก่อน เที่ยวบ้านไร่ให้ครบ ค้างหนึ่งคืน พอเช้าก็เข้าตัวเมืองเที่ยวและกลับกรุงเทพ แบบนี้ไม่ต้องรอหยุดยาว เสาร์-อาทิตย์ก็เที่ยวได้

ในกรณีที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ถ้าจะเที่ยวในตัวเมือง ก็มีรถตู้อนุสาวรีย์ วิ่งตรงเข้าตัวเมืองเลย และในตัวเมืองก็มีรถสามล้อรับจ้างพาเที่ยวรอบตัวเมืองใน ราคาไม่แพง ตอนเย็นสามารถให้เขาพาส่งที่ท่ารถตู้ได้อีก แต่ถ้าจะไปเที่ยวบ้านไร่ต่อแล้วไม่มีรถยนต์ส่วนตัว อาจจะลำบากเล็กน้อย เพราะว่าบ้านไร่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนยังไม่รู้จัก รถรับจ้างก็จะน้อย ไม่ค่อยมี จะมีเป็นรถของรีสอร์ท ซึ่งมีการคิดราคาเพิ่ม ไปคนเดียวผมจะไม่ค่อยแนะนำ ไปหลายคนถึงจะคุ้มกว่า

อยากฝากอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทัยธานี
ที่นี่เหมือนเป็นจังหวัดที่สิ้นคิดของผม ถ้ามีช่วงไหนที่ผมว่างแล้วไม่รู้จะไปไหนผมก็จะไปอุทัยฯ ด้วยความที่สถานที่เที่ยวในอุทัยฯ ยังเป็นธรรมชาติมากๆ บางครั้งก็จะไม่สะดวกสบายซักเท่าไหร่ อย่างเช่น บางสถานที่อาจไม่มีคลื่นโทรศัพท์ในบางจุด เช่น อุทยานห้วยขาแข้งที่เป็นป่า และพวกร้านค้าก็อาจจะไม่ได้มีมากตลอดทาง ก็อยากให้ใจเย็น เพราะเมื่อขับรถไปถึงที่พักหรือเข้าตัวเมืองก็จะสะดวกสบายมากขึ้น และตอนนี้ ที่อุทัยฯ กำลังรณรงค์เมืองสีม่วง เพราะริมแม่น้ำสะแกรกรังมีบ้านของพระเทพฯ อยู่ด้วย พระองค์ได้ทรงซื้อบ้านอยู่ที่นั่น ตรงข้ามกับวัดโบสถ์ คนในตัวเมืองอุทัยก็เลยรวมตัวกันทาบ้านเป็นสีม่วงกันหมด ณ ปัจจุบัน ในตัวเมือง บ้านเรือนกลายเป็นสีม่วงหมดแล้ว ก็สวยงามไปอีกแบบ

สิ่งที่จะได้รับจากการท่องเที่ยว
สิ่งที่ผมได้รับจากการไปเที่ยวอุทัย คือ ความสุขทางใจ เป็นความสุขทางใจแบบของแท้ คือ ไม่ต้องพยายามดู หรือรับรู้อะไร เพื่อมาประมวลความสุข แค่ลงจากรถ และเจอเมืองอุทัย เราก็มีความสุขแล้ว เพราะทุกอย่างมันดูสบายตา สบายใจไปหมด ทุกอย่างมันตอบโจทย์ของคำว่า “สโลว์ไลฟ์” ได้ดีที่สุด ในตัวเมืองเนี่ย แทบจะไม่มีรถยนต์เลย มีน้อยมาก และคนก็ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กัน ชาวบ้านในตัวเมือง ในเขตเทศบาลเมืองก็อยู่บ้านแบบเก่าๆ สไตล์บ้านคนจีนสมัยก่อน ไม่มีตึกสูงเหมือนเมืองหลวง และอีกอย่างที่ผมได้รับจากการไปอุทัยฯ คือ การปรับตัวด้านมนุษยสัมพันธ์ เพราะผมจะเป็นคนพูดจาโผงผางหยาบๆ แต่ไม่ได้มีนิสัยหยาบๆ นะ แต่แค่เป็นคนพูดจาโผงผางตามสไตล์คนใต้ พอไปเจอคนอุทัย เขาก็จะรู้สึกแปลกๆ ว่า พูดโผงผางจัง อะไรแบบนี้ ไม่เข้าใจ ผมก็เลยได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับชาวบ้าน พ่อค้า ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวที่นั่น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ได้รับที่เอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

อยากฝากอะไรถึงคนที่ติดตามเว็บไซต์ และเพจเฟสบุ๊คของนายหัวเด่น
เว็บ shareview.in.th และเว็บ naihua.net เป็นเว็บที่จัดทำขึ้นด้วยใจ ผมมีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ เคยเป็นช่างภาพมาก่อน แต่ผมไม่นำเสนอภาพสวยๆ ผ่านเว็บไซต์ เพราะผมมองว่า หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว คือ ข้อมูลไม่ใช่รูปภาพ ผมเลยเน้นไปที่ข้อมูล เน้นการเขียนที่เป็นตัวเอง ภาพก็เน้น การเล่าเรื่องที่ตรงกับความจริง คือ ภาพถ่ายออกมาแบบไหน ถ้าไปเจอก็จะเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ภาพที่ปรับแต่งจนเว่อร์ ภาพในเว็บอาจไม่สวยงามชวนชมเท่าไหร่นัก เพราะผมเน้นข้อมูล ข้อเท็จจริงมากกว่า ในส่วนของเว็บแชร์วิว จะเป็นเว็บแนวรีวิว จะมีรายละเอียดที่ถูกต้องเยอะ รูปภาพเยอะ ข้อมูลเยอะ ส่วนนายหัวเป็น เว็บบล็อก จะเน้นความชอบ ความเห็น ความคิดของผมแบบส่วนตัวซะมากกว่า ก็อยากฝากให้ติดตามกันครับ

จุดเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับตัวเองนำพานายหัวเด่นมาพบกับความอันซีนแบบสุดๆ ของธรรมชาติอันงดงามที่ซ่อนอยู่ภายในจังหวัดอุทัยธานี จังหวัดเล็กๆ ที่เป็นเพียงทางผ่านของการเดินทาง แต่หากได้ลองแวะเยี่ยมเยือนซักครั้งแล้วล่ะก็ จังหวัดเล็กๆ แห่งนี้จะกลายเป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อน ที่พักใจ ในวันที่อยากหยุดพักจากความวุ่นวายของเมืองหลวงได้อย่างดี

ขอบคุณภาพสวยๆ จากบล็อกเกอร์นายหัวเด่น

บทสัมภาษณ์จาก skyscanner